น่านนะจ๊ะ ทริป 4 วัน 3 คืน เต็มอิ่มเต็มปอด จ.น่าน

[Nobita]

ทริปน่าน นะจ๊ะ วันที่ 1

ทริปทัวร์จังหวัดน่านนี้เกิดจากความห่างหายทริปยาวๆ มาครบปีพอดี หลังจากปีที่แล้วไป เกาะช้าง จ.ตราด กันมา และทริปนี้เป็นครั้งแรกที่จะได้เดินทางผ่านถนนทางนี้ ทริปก่อนๆ ไปเที่ยวเชียงใหม่ เชียงราย จะไปทางกำแพงเพชร-ตาก ถนนหมายเลข 1 เป็นหลัก ทำให้การเดินทางครั้งนี้ต้องดูแผนที่กันเรื่อยๆ ตลอดทาง :)

เราเริ่มออกเดินทางจากระยอง 1 ทุ่มตรง เดินทางไปรับเพื่อนที่สระบุรี แล้วออกเดินทางต่อจากสระบุรี โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 21 มุ่งหน้าไป จ.เพชรบูรณ์ แล้วตัดเข้าถนนหมายเลข 225 ที่ ตำบลบึงสัมพัน จ.เพชรบูรณ์ เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่หมายเลข 11 ที่ จ. นครสวรรค์

แต่..แต่..เรามีการหลงออกจากเส้นทางหลักที่ ถนน 225 อยู่พอสมควร เนื่องจาก GPS พบเส้นทางที่สั้นกว่าแล้วก็ดำเนินการพาเราตะลุยถนนชนบทใน จ.เพชรบูรณ์ ในเวลาราวตี 2 กว่า กับถนนหมู่บ้านที่มืดๆ ทางยากลำบากพอสมควร โชคดีที่คืนนั้นไม่มีฝนตก ถ้าไม่อย่างนั้นละก็อาจจะสว่างอยู่ที่เพชรบูรณ์ก็เป็นได้ หุหุ

อย่างไรก็ตาม หลังจากกลับเข้าสู่ถนนหมายเลข 11 ได้ เราก็ตั้งหลักแล้วมุ่งหน้าขึ้นเหนือ ผ่านพิจิตร พิษณุโลก มุ่งสู่อุตรดิตถ์ ซึ่งมาถึงจุดนี้ก็ดึกมากแล้ว ราว ตี 3 กว่า วิ่งบนถนนจากพิษณุโลกไปอุตรดิตถ์นั้นเป็นทางตรง 4 เลน ซึ่งเสี่ยงต่ออาการง่วงหลับในมาก ในที่สุดเราตัดสินใจนอนพักริมทางก่อนขึ้นเขาขาด จ.อุตรดิตถ์ จนถึงตี 5 ครึ่ง จึงตื่นออกเดินทางต่อ (ทรหดมาก)

และแล้ว 10 โมงตรง เรามาถึงตัวเมืองน่านในที่สุด...

หลังจากเดินทางมายาวนาน ร้านแรกที่แวะเติมแรง เราแวะกันที่ “ร้านเฮือนฮอม” ที่อยู่ตรงข้ามศูนย์โอทอป น่าน มาถึงเหนือก็ต้องทานอาหารเหนือ มื้อเช้านี้เบาๆ กับข้าวซอย น่าน

   

หลังทานอาหารเช้ากันอิ่ม มีพลังแล้ว ก็เดินข้ามถนนไปช็อปเสื้อผ้า แปลงร่างเป็นคนเหนือหน่อย ที่ “ศูนย์โอทอป น่าน” ที่นี่มีสินค้าพื้นเมืองน่านจำหน่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าสไตล์เหนือ ภาพวาด งานจักสาน งานทอ สำหรับใครที่สนใจของฝาก ของที่ระลึกจากน่าน แวะที่นี่ได้ ไม่พลาดแน่นอน

เมื่อช็อปปิ้งได้ครบตามต้องการแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อ จุดหมายปลายทางต่อไปคือ อำเภอปัว เป้าหมายแรกคือ “ร้านกาแฟ บ้านไทลื้อ” อันเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของ อำเภอปัว ณ ขณะนี้

   

   

[Nobita]

ที่ร้านกาแฟบ้านไทลื้อนี้นอกจากจะมีกาแฟ มีขนมขายแล้ว จุดเด่นอย่างหนึ่งก็คือ การมีมุมนั่งเล่น นอนเล่น พักผ่อนหย่อนกายให้หายเหนื่อย ทั้งแบบรวมและแบบแยกเป็นกระท่อมเล็กๆ ส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปแล้วน่าจะอยู่ได้หลายชั่วโมงเลยทีเดียว

   

   

   

[Nobita]

   

   

เมื่อจิบกาแฟ พักผ่อนจากการขับรถมาทั้งคืนหายเหนื่อยแล้ว ก็วกรถกลับมานิดหน่อยเพื่อไปไหว้พระ ทำบุญ ชมวิวที่ “วัดภูเก็ต” ซึ่งอยู่บนถนนเส้นเดียวกับร้านกาแฟ บ้านไทลื้อนั่นเอง

ที่วัดภูเก็ตนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทุ่งนาเขียวขจี มีเทือกเขาเป็นแบ็คกราวด์อยู่ด้านหลัง แต่จะได้ภาพมุมสูง คนละมุมกันกับที่ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

   

[Nobita]

   

   

   

[Nobita]

   

   

เมื่อไหว้พระ ทำบุญ เก็บภาพจนพอใจก็บ่ายแล้ว ได้เวลาเติมพลังกันอีกรอบ เราเลือกเติมพลังงานช่วงบ่ายกันที่ร้าน “ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ”

ที่นี่นอกจากจะเป็นฟาร์มเพาะเห็ดแล้ว ยังมีการนำเห็ดมาปรุงอาหารเป็นเมนูต่างๆ มากมาย ในบรรยากาศสบายๆ มีน้ำไหลผ่าน มีวิวทุ่งนาให้มองสุดลูกหูลูกตาอีกแห่งหนึ่ง

เมนูแนะนำที่ต้องลองคือ พิซซ่าหน้าเห็ด อันนี้อร่อยมาก แนะนำให้ลองเลย

   

[Nobita]

   

   

   

[Nobita]

หลังอิ่มหมีพีมันแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปยังที่พักคืนแรกสำหรับทริปนี้ เราจองที่พักไว้ที่ "อุทยานแห่งชาติดอยภูคา" โดยจองผ่านทางเว็บไซต์ของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางที่สะดวกมากๆ สำหรับการจองที่พักของอุทยานฯ ผมเองนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ใช้บริการครับ เสียดายยังไม่มีบริการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต

การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จากอำเภอปัวไปตามถนนหมายเลข 1256 สภาพถนนถือว่าดีมาก ขับรถขึ้นเขา ชมวิวทิวเขา 2 ข้างทางที่สลับเรียงกันไปเรื่อยๆ สวยงามตื่นตาและเพลินดีมากๆ ทั้งนี้ อย่าลืมเติมน้ำมันมาให้พร้อมเพราะข้างบนอุทยานไม่มีปั้มน้ำมันนะครับ จะมีอีกทีก็ที่อำเภอบ่อเกลือเลย

   

   

เราจองห้องพักเป็น “บ้านพักภูคา 107” สภาพของห้องพักเยี่ยมเลย มี 4 เตียงนอน มีห้องน้ำห้องอาบน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่น สะดวกสบายมากสำหรับที่นอนคืนนี้ ปล.ไม่ได้ถ่ายรูปรายละเอียดมานะครับ มัวแต่ขนของเพราะเดี๋ยวมืดก่อน ฮ่าๆๆ

   

จบสำหรับการเดินทางทริปจังหวัดน่านวันแรก คืนนี้ขอเข้านอนก่อน พรุ่งนี้เช้ามาต่อกันกับวันที่ 2 ของ “น่าน นะจ๊ะ” ทริปครับ

[Nobita]

มาแล้วๆ มาต่อกัน วันที่ 2 ทริปเที่ยวจังหวัดน่าน จากกระทู้นี้กันเลยครับ... ทริปเที่ยวน่าน วันที่ 2 ดอยภูคา บ่อเกลือ วัดพระธาตุเขาน้อย

[teepag]

บรรยากาศดี น่าไปเที่ยวมากค่ะ

[FrankJScott]

What Makes Yak Merino Wool Base Layers So Effective For Winter Sports Clothing In Terms Of Natural Fiber Benefits?
Natural fibers are a great option for base layers of winter sports apparel, and not only for their performance but also for their sustainability.
Yak and Merino Wool are both organic fibers that are derived from animals. They are both renewable resources that can be sustainably harvested without harming the animals. The fibers are biodegradable and don't damage the environment.
Low Environmental Impact
Natural fibers are typically less damaging to the environment as compared to synthetic materials. Wool is manufactured using fewer chemical compounds than synthetic fibers and require less non-renewable energy.
Energy Efficiency
The processing of wool fibers takes less energy compared to the synthetic fibers, such as polyester or nylon. The energy required during the process of manufacturing natural wool is generally lower, contributing to reduced carbon emissions.
Reducing Microplastic Pollution
Natural wool fibers aren't able to pollute water bodies with microplastics like synthetic fibers.
Product's long-term durability and its recycling
The clothes made of yak merino are generally sturdy and last for a lengthy duration. Wool fibers are also reused or recycled to decrease the amount of waste.
Sustainable PracticesSustainable Practices
Certain producers and manufacturers of wool follow ethical and sustainable practices. They make sure to ensure the welfare of animals, a good land management and fair work conditions for their employees.
Environmental Certification-
The Responsible Wool Standard or Global Organic Textile Standard are certifications that verify ethical and sustainable practices in the wool production industry. They offer consumers assurances about sustainability.
In general, yak Merino Wool base layers support environmental sustainability since they are made of natural fibers, have minimal environmental impact, and incorporate ethical and sustainable practices within the supply chain. By choosing natural fibers such as yak merino for winter sports apparel, you are supporting environmentally sustainable and sustainable practices for consumption. Have a look at the top merino wool base layers blog for blog recommendations including wool long johns women's, merino base layer womens, merino wool long underwear, patagonia merino wool base layer, hh lifa merino, merino wool long underwear, merino wool underwear womens, spyder baselayer, ski thermals mens, smartwool 150 base layer and more.



What Are The Advantages Of Bamboo Clothing?
Bamboo clothing has many advantages in terms of softness and durability.
Bamboo fabric offers an exquisite and silky texture it is often compared to other luxurious fabrics, such as cashmere or Silk. It is soft and smooth against your skin, providing a comfortable and a pleasant wear.
Antibacterial Properties
Bamboo is known to have antimicrobial properties that are naturally. This agent is called "bamboo Kun." This property can help to stop the growth of bacteria that cause odor, fungi and mold on the bamboo.
Durability-
The strength - Despite being soft, bamboo fibres can be robust and durable. Bamboo-based clothing is impervious to tearing and wear. This makes it ideal for many tasks.
Renewability-
Rapid growth - Bamboo is an very renewable resource that grows quickly without pesticides or fertilisers. It is a resource that can be regenerated which grows quickly without the requirement for fertilizers or pesticides.
Sustainability-
The production of bamboo is eco-friendly. and cultivation have lower environmental footprints as compared to synthetic materials. Bamboo is sustainable due to its rapid growth, the fact that it requires very little water, and also because it is able to grow in a variety of climates.
Biodegradability-
Natural Decomposition - Bamboo clothes have biodegradable properties, which means it will decompose on its own at the end of its life cycle. This decreases the amount of non-biodegradable material that ends up in landfills and also helps to minimize environmental pollution.
Hypoallergenic Qualities
Bamboo fabric is less prone to likelihood of causing skin irritation and allergic reactions than other synthetic fabrics. This makes it a perfect option for those who have sensitive skin.
Bamboo clothing is an excellent option for anyone looking for eco-friendly, comfortable and functional clothing. It is soft, with antibacterial properties and durability. These attributes make for a pleasant wearing experience, and also in line with environmentally conscious practices. Have a look at the most popular this post about bamboo clothing for more tips including bamboo infant clothing, boody bamboo underwear, childrens bamboo socks, bamboo under wear, bamboo baby pajamas, bamboo ladies pants, preemie bamboo pajamas, shakuhachi clothes, bamboo cay christmas shirts, clothes made from bamboo and more.



What Are The Distinctions Between Bamboo, Merino And Wool Clothing In Terms Of Texture, Warmth And Absorbency?
Texture is the most important element to be considered when comparing the merino garments to traditional bamboo clothing and wool.
Merino Wool Merino Wool has finer fibers and is softer than wool that is more traditional. It's considered more comfortable.
Bamboo Clothing- Bamboo fabric is soft and smooth, often compared to luxurious fabrics like cashmere or silk. It has a gentle and soft feel that makes it easy to wear.
Traditional Wool Traditional Wool in a variety of texture. Some are more coarse than others, and can cause itchiness or discomfort.
Warmth-
Merino Wool- Merino wool is extremely warm due to its insulating properties. It retains heat when wet, and can be an effective insulation for colder climates.
Bamboo Clothing is also warm however, it is not as protected as Merino. It regulates the body's temperature and can be comfortable in a variety of climates.
Wool, like merino and bamboo clothing, is a great insulator. However, it may feel bulkier or heavier compared to merino or bamboo clothing.
Moisture Absorption-
Merino Wool Merino Wool's moisture-wicking properties allow moisture to be able to escape from the skin. It remains warm even when it is damp.
Bamboo Clothing- Bamboo fabric also has moisture-wicking capabilities that draw moisture away from the skin, and providing the comfort needed during physical activity. It regulates the moisture and helps keep wearers dry.
Traditional Wool: While wool can absorb moister but it doesn't have the same wicking ability like bamboo and merino fabrics. Wool is heavy and damp when wet.
Merino wool is known for its warmth, softness and moisture-wicking abilities. Bamboo clothing is soft and silky. It is warm. It also regulates moisture. Traditional wool could have a different texture, and provide warmth and moisture absorption but feel heavier or coarser when compared with the bamboo or merino clothes. Each fabric has distinct properties that cater to different fashion preferences and demands in clothing. Read the top rated bamboo winter clothing info for more info including smartwool long sleeve, minus 33 base layer, smartwool 250 base layer, bamboo winter clothing pant, merino wool long underwear mens, smartwool classic thermal merino quarter zip base layer top women's, smartwool base layer sale, minus 33 base layer, 100 merino wool base layer, smartwool 250 base layer and more.