ThaiBuddyTrip.com - เว็บคู่หูของคนชอบเที่ยว

Full Version: ทริปเที่ยว วังน้ำเขียว - ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30-31 ก.ค. 2554
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
ไม่น่าเชื่อว่าทริปนี้ของพวกเราจะเป็นทริปที่ทั้งโหดแบบลุยป่า และชิลๆ แบบในเมือง เป็นอย่างไรลองติดตามอ่านดูครับ

ทริปนี้เป็นทริปที่เกิดขึ้นจากความอัดอั้นในการอยากจะไปเที่ยวมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้ไปสักที หลังจากล่าสุดไปเที่ยวมาตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา กับทริปเที่ยวปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ทั้งนี้ก็เนื่องด้วยสมาชิกแต่ละท่านต่างก็มีภาระในแต่ละสุดสัปดาห์จนแทบจะหาโอกาสว่างพร้อมๆ กันไม่ได้สักที

แต่แล้วในที่สุดเราก็ตัดสินใจฟันธงว่า 30-31 ก.ค. นี้ เราจะไปเที่ยววังน้ำเขียวและปากช่องกัน ขืนช้าไปกว่านี้วังน้ำเขียวอาจจะไม่สามารถเที่ยวได้ (บางรีสอร์ท) เช่นเดียวกับทริปเขาพระวิหาร ที่พวกเราไปมาแล้วต่อมาไม่กี่สัปดาห์ก็เกิดเหตุจนปัจจุบันไปเที่ยวไม่ได้หลายเดือน ล่าสุดเขาพระวิหารเพิ่งจะเปิดให้เที่ยวได้อีกครั้งเมื่อ 1 ส.ค. ที่ผ่านมานี่เอง

หลังจากรวมตัวกันพร้อมออกมันส์ในเช้าวันเสาร์และเมื่อเดินทางมาถึงวังน้ำเขียว รถคันหนึ่งในทีมของเราก็เกิดเสียพอดิบพอดี สาเหตุจากหม้อน้ำแห้ง เกิด Over heat จนซีลเครื่องรั่ว น้ำมันไหลซึมออกตามซีลเครื่อง เป็นอันว่าเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปสำหรับคันนี้ จึงโทรแจ้งศูนย์ที่โคราชมารับรถไปเพราะรถนั้นไม่สามารถวิ่งต่อได้แล้ว

[attachment=3285]
รถเสียที่วังน้ำเขียว

แต่กว่ารถจากศูนย์ที่โคราชจะมาถึงต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง เราจึงตัดสินใจจะไปดูรีสอร์ทที่เราตั้งใจจะมาพักกันก่อนซึ่งก็อยู่บริเวณวังน้ำเขียวนี่แหล่ะ แต่ในทีมเราก็ยังไม่เคยมีใครไปพักสักคน เคยแต่ได้ยินชื่อ รีสอร์ทที่ว่านี้คือ “บ้านริมน้ำ
การเดินทางของเราเริ่มต้นขึ้น จากรถ 4 คัน คน 11 คน ถูกลดลงเหลือรถ 3 คัน คน 11 คนกับของที่ขนมาเต็มคันรถทุกคัน แต่ความมันยังรออยู่จึงไปต่อกันได้และมุ่งหน้าสู่ “บ้านริมน้ำ” เพื่อจะติดต่อจองห้องพัก แต่หลังจากผ่านการหลงทาง ขับรถเลยไปจนต้องจอดถามทางเป็นระยะในที่สุดเราก็ได้เส้นทางที่มุ่งหน้าไปยัง “บ้านริมน้ำ” โดย...ไม่คิดว่าเส้นทางที่ว่านี้จะต้องลงจากถนนลาดยางออกมาผจญกับทางหฤโหดขนาดนี้

ทางที่ออกจากถนนลาดยางมุ่งหน้าไป “บ้านริมน้ำ” นั้น เป็นทางลูกรังที่ค่อนข้างเรียกว่ายากมากสำหรับรถยนต์ที่พวกเราเอาไปกัน ไม่แนะนำสำหรับท่านที่จะเดินทางไปโดยรถยนต์ครับ แต่ที่พวกเราเอาไปเพราะไม่รู้ว่าทางจะขนาดนี้ อีกอย่างเพราะช่วงนี้ฝนตกชุกทุกวัน น้ำไหลในร่องถนนจนต้องขับส่ายซ้ายทีขวาทีเพื่อหาไลน์ที่จะไม่ให้ท้องรถติดกับถนน ถึงกระนั้นก็ยังถูสเกิร์ตกันจนได้ เท่านั้นยังไม่พอ เจออุปสรรคใหญ่ถึง 2 ที่ อันแรกเป็นฝายน้ำล้นที่สร้างด้วยคอนกรีตที่มีน้ำไหลลาดอยู่ 4-5 ซม แต่เนื่องจากพวกเราไม่เคยมา ไม่รู้ว่าจะมีหลุมอยู่ใต้น้ำหรือเปล่า จึงต้องลงสำรวจให้มั่นใจก่อนที่จะลงเสี่ยงดวง ในที่สุดพวกเราก็ข้ามมาได้อย่างใจตุ้มๆ ต่อมๆ กัน เพราะช่วงที่รถเอียงลง หน้ารถแทบจะถูกับพื้นของฝายเพราะฝายเอียงมาก

[attachment=3286]
เจอกับฝายน้ำล้นอันแรก ต้องลงสำรวจก่อนว่ามีหลุมหรือเปล่า

เมื่อผ่านมาได้ก็ลุยกับเส้นทางลูกรังต่อไปสักพัก และก็มาถึงฝายน้ำล้นอีกครั้งเป็นอันที่ 2 อันนี้น่ากลัวกว่าอันแรก เพราะไม่ใช่ฝายที่สร้างขึ้น แต่เป็นแนวก้อนหินใหญ่กว่าช่วงตัวรถนิดหน่อยที่ขวางทางน้ำจนเป็นเหมือนฝาย คราวนี้ลำบากกว่าเดิมเพราะน้ำไหลลาดแถมยังมีหลุมจากหินที่ผุแตกใต้น้ำอีก เราต้องใช้ไม้เท้าดูว่ามีหลุมตรงไหน ตรงไหนลื่น ตรงไหนไม่ลื่น เพราะขนาดเพื่อนเราเดินผ่านยังลื่นสไลด์กันเลย ถ้าเป็นรถลื่นนี่ไม่อยากจะคิด

เจออันนี้เข้าไปพวกเราหยุดตรวจถนนอยู่นานกว่าอันแรกมาก แถมถนนก็เล็ก ไม่สามาถวิ่งสวนกันได้ แล้วก็มีรถกระบะตามมาต่อท้ายพวกเราเพื่อรอคิวที่จะข้ามฝายนี้ และคงจะรอนานพอสมควรจน ลงมาถามพวกเราว่า “มีอะไรรึเปล่า?” พวกเราก็ได้แต่ยิ้มและบอกว่า “ขอโทษครับ พวกผมไม่เคยมาทางนี้ ไม่รู้ว่ามีหลุมใต้น้ำรึเปล่า” แต่ในเมื่อถอยหลังก็ไม่ได้แล้วมีรถต่อคิวอยู่ พวกเราจึงต้องค่อยๆ ขับประคองข้ามโดยมีเพื่อนๆ ดูทางให้ทั้งหน้า-หลัง รอบคัน โบกทางกันเหมือนเฮลิคอปเตอร์ลงจอด จนข้ามได้ครบ 3 คัน

[attachment=3287]
ฝายน้ำล้นอันที่ 2 หนักกว่าอันแรกมากกก

เฮ้อ... เหนื่อยทั้งตัวเหนื่อยทั้งใจ แต่ในที่สุดก็มาถึงครับ “บ้านริมน้ำ รีสอร์ท”

บรรยากาศของ “บ้านริมน้ำ” ก็ไม่ถึงกับว่าขี้เหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับว่าสวยมาก อาจจะเป็นเพราะอยู่ลึกและนักท่องเที่ยวคงจะมาถึงน้อย (ถ้าไม่ใช่พวกกระบะลุยๆ) ทำให้ที่นี่กึ่งๆ สวย กึ่งๆ รก อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเราถึง “บ้านริมน้ำ” รถที่จะมารับรถเสียเพื่อไปซ่อมที่ศูนย์ก็มาถึงเช่นกัน ซึ่งเจ้าของรถก็จะต้องออกมาจัดการเรื่องเอกสารด้วย พวกเราจึงปรึกษากันและสรุปว่าคงจะออกมาทั้งหมดดีกว่า เพราะหากออกมาคันเดียวเพื่อจัดการธุระแล้วเกิดฝนตกก็คงจะเข้าไปหาพวกเพื่อนๆ ไม่ได้แน่ และพวกเพื่อนๆ ก็จะออกมาไม่ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงกลับออกมากันหมดโดยไม่ได้พักที่ “บ้านริมน้ำ”
เมื่อจัดการเรื่องส่งรถเข้าศูนย์แล้ว เราจึงไปพักเหนื่อยหาอาหารกลางวันรับประทานกันที่ “สวนสุชาดา” ซึ่งแยกเข้าไปทาง “เขาแผงม้า” ประมาณ 12 กม จากตลาดวังน้ำเขียว แล้วขับรถต่อไปเพื่อหาที่พัก จนมาได้เจอกับ “ภูธาราฟ้า รีสอร์ท” ที่อยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ที่นี่วิวสวย มองเห็นภูเขาด้านหนึ่งและอีกด้านหนึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มาก ซึ่งมีลมพัดแรงตลอดเวลา จนถึงขั้นหนาวกันเลย (อีก 1 ข้อควรพกไว้คือเสื้อแขนยาวหรือเสื้อกันหนาวเวลาไปเที่ยวภูเขา)

[attachment=3288]

[attachment=3289]
เราตัดสินใจพักกันที่ “ภูธาราฟ้า รีสอร์ท” แห่งนี้ ซึ่งห้องพักก็มีหลายแบบ เช่น บ้านเดี่ยวชั้นเดียว มี 1 ห้อง พักได้ 2 ท่าน ราคา 1,800 บาทต่อคืน บ้านแฝด 2 ชั้น มีชั้นละ 1 ห้อง พักได้ 2 ท่าน ราคาห้องละ 1,400 บาทต่อคืน แต่พวกเราไปกันเยอะ จึงเลือกพักแบบบ้านแฝดชั้นเดียว มี 2 ห้อง พักได้ 4 ท่าน ราคาห้องละ 3,000 บาทต่อคืน เราเช่า 2 ห้อง แต่อัดกันอยู่ถึง 11 คน 555+

[attachment=3290]
หลังละ 1,800 บาท/คืน

[attachment=3291]
ห้องละ 1,800 บาท/คืน

[attachment=3292]
หลังนี้ 6,000 บาท/คืนครับ

ที่นี่มีบริการเตาปิ้งย่างให้ยืม แต่ต้องมัดจำ 300 บาท มีถ่านขายพร้อมกับสั่งอาหารได้ที่ครัวของรีสอร์ท จาน-ชาม แก้ว เครื่องครัวต่างๆ สามารถยืมได้ไม่อั้น ชอบบริการนี้มากครับ เพียงแจ้งว่าอยากได้อะไร จำนวนเท่าไร ทางรีสอร์ทจะ Packing อย่างดีมาส่งให้ถึงห้องพักกันเลย
แม้รีสอร์ทจะมีขนาดใหญ่ ห้องพักเยอะ แต่วันที่เรามานี้ลูกค้าของรีสอร์ทก็ค่อนข้างเยอะครับ ประมาณด้วยสายตาน่าจะราวๆ 60-70% ของความจุรีสอร์ท ที่นี่มีสระว่ายน้ำ ตอนเช้ามีอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์บริการ ถ้าไม่เปิดประตูออกมาเจอภูเขา กับอ่างเก็บน้ำ ความรู้สึกก็คงเหมือนพักอยู่ในโรงแรมดีๆ นี่เอง เพราะเป็นรีสอร์ทที่บริหารงานแบบกึ่งโรงแรมนั่นเอง

บางมุมของรีสอร์ทครับ
[attachment=3293]

[attachment=3294]

[attachment=3295]
ตกเย็นเราก็มีปาร์ตี้กันเหมือนเคย เพราะเราก็ตั้งใจมาปาร์ตี้อยู่แล้ว 555

[attachment=3296]

[attachment=3297]

[attachment=3298]
พ่อครัวตัวย่างประจำทริป ดูหลักฐานได้จากทริปเที่ยวเกาะช้าง
ตอนเช้าฝนตกเล็กน้อยช่วงเช้ามืด แต่หลังจากทานอาหารเช้าบุฟเฟต์จากรีสอร์ทแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าไปยังปากช่องกันต่อ เป้าหมายคือ “ไลฟ์ พาร์ค” ที่ปากช่อง โดยใช้เส้นทางวังน้ำเขียว-เขาใหญ่ ที่ขับรถลัดเลาะรอบเขาใหญ่ ได้ชมบรรยากาศสวยๆ ตลอดสองข้างทาง ระยะทางจากตลาดวังน้ำเขียวถึง “ไลฟ์ พาร์ค” ก็ประมาณ 100 กม พอดี เรามาที่นี่กันเพราะตั้งใจจะมาเล่นเครื่องเล่นต่างๆ แต่เมื่อพิจารณาหลายๆ อย่างแล้ว เราตกลงไปกันต่อที่ “ทองสมบูรณ์ คลับ

ติดตามได้ในกระทู้หน้านะครับ เรื่องมันส์ยาวว
สวดยอดเลยยค้าบบบ อย่างนี้ต้องติดตาม
สุดยอดไปเลยยยย
มาแล้วนะครับหลังจากให้รอไปนานนน... หลังจากที่เรานอนค้างคืนที่วังน้ำเขียวนี้แล้ว ตอนเช้าเราก็ออกเดินทางไปยัง ทองสมบูรณ์คลับ ปากช่อง ติดตามกันได้เลยครับ ความสนุกล้นทริปจริงๆ คลิกเพื่ออ่านกระทู้ ทริปทองสมบูรณ์คลับ ปากช่อง โคราช สุดสนุก เสียว ฮา
Reference URL's