ตอบกระทู้ 
 
คะแนนกระทู้:
  • 0 Votes - 0 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
รู้จักสไตล์การขับขี่ของสายลุยแต่ละประเภท เพื่อเลือก ยาง ออฟ โรด ให้โดนใจ
Wed, 16 Nov 22, 09:46
Post: #1
รู้จักสไตล์การขับขี่ของสายลุยแต่ละประเภท เพื่อเลือก ยาง ออฟ โรด ให้โดนใจ
เมื่อพูดถึงออฟโรด หลายคนจะนึกถึงรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อที่เรียกว่าโฟร์วีลไดร์ฟ (4WD) และรถกระบะยกสูง แต่ในความเป็นจริงแล้วรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อที่มีสมรรถนะก็สามารถขับขี่แบบออฟโรดได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความทุรกันดารของเส้นทาง
ออฟโรด (Off road) เป็นการขับขี่ไปในพื้นที่ยากลำบาก ได้แก่ เส้นทางขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ ทางลูกรัง หรือเส้นทางธรรมชาติ เช่น ป่า ทุ่ง ลำธาร เนินเขา เป็นต้น ซึ่งนอกจากรถยนต์ที่เหมาะสมแล้ว ยางรถยนต์ก็จำเป็นที่จะต้องมีความเหมาะสมกับการใช้งานด้วย เพื่อให้ผ่านเส้นทางเหล่านี้ได้
มารู้จักสไตล์การขับขี่ของสายลุยแต่ละประเภท เพื่อเลือก ยางออฟโรด ให้โดนใจ
1. สายลุยเบา ๆ ที่ในวันทำงานทั่วไปใช้รถยนต์บนถนนเรียบเป็นหลัก แต่ในวันหยุดชอบขับรถท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นผิวถนนทางเรียบ เช่น ทำงานในเมือง แต่วันหยุดชอบขับรถท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ ที่ไม่ได้ยากลำบากนัก เช่น อุทยานแห่งชาติ ตลาดน้ำ ปราสาทหิน วัด หรือร้านอาหารบนภูเขา เป็นต้น ยางออฟโรดที่เหมาะกับสายลุยแบบคุณคือ ยางประเภท Highway Terrain (HT) ซึ่งเป็นยางที่เน้นความนุ่มเงียบ ประหยัดน้ำมัน ยึดเกาะถนนดี และใช้ความเร็วได้ เหมาะกับการใช้งานในเมือง แต่ถึงแม้จะเป็นยางที่เน้นการใช้บนผิวพื้นถนนเรียบเป็นหลัก ก็มีความทนทานมากกว่ายางรถยนต์ทั่วไป จึงสามารถใช้บนพื้นผิวถนนขรุขระได้ แต่ต้องเป็นเส้นทางธรรมชาติที่ไม่โหดมากนัก เพราะแก้มยางจะฉีกขาดได้ง่าย ยาง HT มักเป็นยางมาตรฐานที่ติดมากับรถที่ในกลุ่มรถกระบะยกสูง รถกระบะอเนกประสงค์ (PPV) หรือรถอเนกประสงค์ (SUV) ดังนั้น ถ้าคุณเป็นสายลุยประเภทนี้ ยาง ออฟ โรด หรือบางครั้งเรียกว่ายางsuv ที่มาพร้อมกับรถก็ยังที่จะใช้งานต่อไป
2. สายลุยปานกลาง ถ้าคุณอยากยกระดับสายลุยของคุณขึ้นมาอีกหน่อย แต่ยังต้องการยางที่เหมาะกับทั้งการใช้งานเมืองและในพื้นที่ทุรกันดาร ยางออฟโรด ประเภท All Terrain (AT) ที่มีความหนา หยาบ และใหญ่กว่ายาง HT เป็นยางที่เหมาะกับสไตล์การขับขี่นี้ ยาง AT ใช้งานได้ดีทั้งบนถนนเรียบและเส้นทางวิบากระดับกลาง ๆ เพื่อแลกกับความสามารถของยางที่มีสามารถใช้งานบนเส้นทางที่มีระดับความโหดมากขึ้น เมื่อขับขี่บนนถนนเรียบจึงให้ความนุ่มนวลน้อยกว่าและมีเสียงดังมากกว่ายาง HT รวมถึงใช้ความเร็วได้น้อยกว่าด้วย อย่างไรก็ตาม ยาง AT ถือเป็นยางอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้ดีทั้งบนเส้นทางเรียบและเส้นทางธรรมชาติ
3. สายลุยระดับโหด ถ้าคุณใช้งานรถบนพื้นที่ทุรกันดารเป็นหลัก เช่น ทำงานในป่า ในสวน ในไร่ หรือบนภูเขา ที่ต้องเจอทั้งถนนที่เป็นโคลน หิน ทางชัน ทั้งลุยลำธาร หรือพื้นทราย ยางออฟโรด ประเภท Mud Terrain (MT) ซึ่งเป็นยางที่มีความทนทานและแข็งแกร่งมากกว่ายาง HT และ AT เป็นยางที่เหมาะกับคุณ ด้วยดอกยางที่โต มีจำนวนมาก และหนากว่า จึงทำให้ลุยงานเป็นเส้นทางวิบากได้อย่างสบายใจ การออกแบบที่ทำให้ใช้งานได้ดีเป็นเส้นทางออฟโรด เมื่อนำมาใช้งานบนผิวถนนที่มีความเรียบ ดอกยางที่หนาและใหญ่จึงทำให้มีเสียงดังขณะขับขี่ และต้องขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ เพราะยางไม่ยึดเกาะถนน

ถ้าตอนนี้ยางรถยนต์ที่คุณใช้ไม่ใช้ยางรถยนต์ที่ใช่สำหรับสายลุยแบบคุณ เพื่อที่จะได้รับความปลอดภัยในการขับขี่และเดินทางอย่างสะดวกสบาย ขอแนะนำ ยาง ออฟ โรด ยาง suv Bridgestone รุ่น Dueler H/T 684 ยาง HT ที่มาพร้อมกับความนุ่มนวล ยาง Dueler A/T 001 ยาง AT ที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง Dueler M/T 674 เพื่อการขับขี่ที่สมบุกสมบันยิ่งกว่า และถ้าคุณมีคำถามว่ายางรถยนต์ขอบ 18 ยี่ห้อไหนดี ก็ขอแนะนำเป็นยางรถยนต์ Bridgestone ที่มีมากมายหลายรุ่นให้เลือกจนพอใจเช่นกัน

[Image: alsr71.md.jpg]
ค้นหาข้อความทั้งหมดของสมาชิกท่านนี้
อ้างถึงข้อความนี้ในการตอบกระทู้
ตอบกระทู้ 


** ข้อแตกต่างระหว่างการตอบกระทู้โดยใช้กล่อง comment ของ Facebook กับกล่องตอบข้อความของทางเว็บ


ข้อความในกระทู้นี้
รู้จักสไตล์การขับขี่ของสายลุยแต่ละประเภท เพื่อเลือก ยาง ออฟ โรด ให้โดนใจ - radnana - Wed, 16 Nov 22 09:46

ไปยังหัวข้อ:


ผู้ที่กำลังดูกระทู้นี้: 1 ผู้เยี่ยมชม