กระทู้นี้ต่อจาก
น่านนะจ๊ะ ทริป 4 วัน 3 คืน เต็มอิ่มเต็มปอด จ.น่าน นะครับ
กริ๊งงง..กริ๊งงง.. นาฬิกาปลุกบอกว่าเช้าแล้ว วันที่ 2 ของทริปเที่ยวน่านเริ่มขึ้น
วันนี้ตื่นสายไปหน่อยเพราะยังเพลียจากการขับรถมาไกลมากกก แต่อากาศยังเย็นสบาย 7 โมงเช้าแล้วแต่ยังออกวิ่งได้ชิลๆ
เพราะภาระกิจอีกอย่างหนึ่งของเราทริปนี้คือ การมาวิ่งออกกำลังกายเบาๆ ที่ดอยภูคา ธรรมดาโลกไม่จำ 555
[
attachment=4815]
อากาศเย็นบวกกับวิวสวย วิ่งขึ้นลงเขาเอากำลังขา ระยะทางอาจจะไม่ไกลเป็น 10 กิโล แต่ความเหนื่อย หึหึ มาเต็ม
[
attachment=4816]
[
attachment=4894]
บริเวณที่พักของดอยภูคา จะมีจุดชมวิวที่มองเห็นทิวเขาของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา และที่นี่มี
“ต้นชมพูภูคา” ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้หายาก ใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่งของโลก
เมื่อประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา มีรายงานว่าพบพันธุ์ไม้ชนิดนี้ ที่มณฑลยูนานประเทศจีน แต่ปัจจุบันคาดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วเนื่องด้วยการตัดไม้ทำลายป่า สำหรับในประเทศไทยมีรายงานการสำรวจพบพันธุ์ไม้ชนิดนี้เมื่อมี พ.ศ. 2532 บริเวณป่าดงดิบเขาดอยภูคา อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน (ที่มา:
https://th.wikipedia.org/)
[
attachment=4818]
จากนั้นก็วิ่งชมบรรยากาศของบ้านพักแบบต่างๆ บนยอดดอยภูคา แล้วกลับมาที่พักเพื่ออาบน้ำ ออกเดินทางต่อไปยังจุดชมวิวที่ดอยภูคา
[
attachment=4819]
แต่ก่อนจะลาจากดอยภูคา ก็ขอเก็บภาพประทับใจกันนิดส์หนึ่งนะฮ้าบบว่ามาพิชิตดอยภูคาแล้ววว
[
attachment=4820]
[
attachment=4821]
ขับรถออกจากที่พักของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา มุ่งหน้าไปทางอำเภอบ่อเกลือ ประมาณ 8 กม. ก็จะถึง
"จุดชมวิวของดอยภูคา" ที่ความสูง 1715 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก สามารถชมทะเลหมอก ดูนกได้ หากต้องการดูทะเลหมอกต้องมาช่วงฤดูฝน
[
attachment=4822]
[
attachment=4823]
หลังสูดอากาศสดชื่นเต็มปอดและเก็บภาพ ณ จุดชมวิวเข้าเมมโมรี่กันเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาอาหารเช้ากึ่งเกือบเที่ยง 555
มื้อนี้เราเลือกฝากท้องที่ร้าน
“บ่อเกลือวิว รีสอร์ท” ซึ่งเป็นร้านขึ้นชื่อของที่นี่ บรรยากาศการตกแต่งร้านน่านั่ง อาหารอร่อย มีวิวมองลงไปด้านล่างเห็น
“แม่น้ำมาง” ไหลผ่าน ให้บรรยากาศชิลๆ ผ่อนคลายระหว่างทานอาหาร
[
attachment=4824]
บรรยากาศน่านั่ง
[
attachment=4825]
จะสังเกตว่าเห็นมีคนหนึ่งหลับไปแล้ว จากการนั่งรถข้ามเขา เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ขึ้นลง ขึ้นลง หลับเลย 555
[
attachment=4826]
มื้อนี้และทุกมื้อก็ยังเน้นอาหารเหนือเป็นหลัก มาเที่ยวเหนือทั้งทีก็ต้องกินของเหนือ ซื้อของเหนือสิครับ
[
attachment=4827]
แม่น้ำมางไหลอยู่ด้านล่าง และที่มองเห็นนั่นคือ
“เฮือนฮิมมาง” รีสอร์ทครับ
[
attachment=4828]
เมื่อทานอิ่มเติมพลังงานคนเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาไปยังจุดไฮไลท์ของอำเภอบ่อเกลือ นั่นก็คือ
“บ่อเกลือสินเธาว์ภูเขา” ซึ่งเป็นชุมชมผลิตเกลือสินเธาว์ของที่นี่ที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล
[
attachment=4829]
ใครที่ยังไม่ได้ทานกาแฟก่อนมา ที่นี่ก็มีกาแฟสดบริการนะครับ ณ
"กรุ่นไอเกลือ กาแฟสด"
[
attachment=4830]
ถึงแล้ววว บ่อเกลือโบราณของที่นี่
[
attachment=4831]
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีจุดที่มีปลาชุกชุม สามารถให้อาหารปลาได้ที่ริมแม่น้ำมาง เจ้าตัวเล็กเพลินเลย ปลากระโดดน้ำกระเด็น สนุกสนาน
[
attachment=4832]
ก่อนจากไป ขอเก็บรูปภาพชิลๆ อีกสักหน่อย
[
attachment=4833]
เสร็จสิ้นภาระกิจพิชิตบ่อเกลือแล้ว สถานีต่อไปของเราคือกลับเข้าเมืองน่าน เพื่อเที่ยวชมเมืองน่านยามเย็นกัน
ทางเลือกของเราคือจะย้อนกลับทางเดิมคือกลับไปทางดอยภูคา ผ่านปัว กลับเข้าน่านด้วยทางหลวงหมายเลข 1256 หรือจะมุ่งหน้าต่อไปทางอำเภาสันติสุขด้วยทางหลวงหมายเลข 1081 ซึ่งสภาพถนนก็เป็นภูเขาไม่ต่างจากทางดอยภูคาที่เรามา
ในที่สุดเราตัดสินใจเลือกกลับเข้าเมืองน่านด้วยทางอำเภอสันติสุข เพราะต้องการเห็นถนน เห็นภูเขา เห็นชุมชน ด้วยเส้นทางใหม่ๆ อะไรก็น่าจะตื่นตาตื่นใจมากกว่ากลับทางเดิม
และก็ไม่ผิดหวังครับ ถนนสวย ภูเขาสวย และขับรถชมวิว ฝนตกเบาๆ จากบ่อเกลือประมาณ 45 กม จะมีร้านกาแฟสด วิวบนเขาสูง สวยเลย ชื่อ
“ร้านกาแฟดอยกว่าง คอฟฟี่” เป็นจุดพักรถ จิบกาแฟ มุมเก็บภาพรอบทิศทาง 360 องศาครับ
[
attachment=4834]
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีจุดชมวิว
“ถนนลอยฟ้า” ที่สวยงามของถนนนี้อีกด้วย และเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญ เห็นแล้วต้องร้องอ้อ ที่นี่เอง
[
attachment=4835]
เก็บภาพกันตลอดทริป
[
attachment=4836]
เรามากันหน้าฝนครับ ต้องเจอฝนเป็นธรรมดา แต่ก็ได้เห็นความสดชื่นและต้นไม้ที่เขียวขจีตลอดเส้นทางถือว่าคุ้มค่า นี่ฝนก็ไล่มาอีกแล้ว ต้องรีบขึ้นรถ พอขึ้นรถปุ๊บฝนตกซู่หนักเลย อย่างไรก็ตามสภาพถนนดีมากครับ เดินทางต่อได้ไร้ปัญหา
[
attachment=4837]
[
attachment=4838]
ขับรถต่อมาสักพักใหญ่ๆ ก็กลับมาถึงอำเภอเมืองน่าน เรียกได้ว่าถึงตอนนี้เราผ่านเกือบทุกอำเภอของจังหวัดน่านเลยทีเดียว
เมื่อกลับเข้ามาเมืองน่าน ที่แรกที่เราไปคือ
“วัดพระธาตุเขาน้อย” เพื่อไหว้พระเป็นศิริมงคลและมองเมืองน่านไปในตัว ก่อนที่เราจะตะลุยเที่ยวเมืองน่านซึ่งเป็นเป้าหมายต่อไป
[
attachment=4839]
มุมสุดคลาสสิคของวัดพระธาตุเขาน้อย อาจเรียกได้ว่าเกือบ 100% ของคนที่มา ต้องถ่ายภาพ ณ จุดนี้กันเลย
จากวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542
[
attachment=4840]
[
attachment=4841]
นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประดิษฐานให้ประชาชนได้สักการะบูชาที่วัดพระธาตุเขาน้อยนี้ด้วย
[
attachment=4842]
ตอนนี้ก็เริ่มจะเย็นแล้ว เพราะเราทั้งเดินทางข้ามเขา ทั้งจอดแวะเที่ยวตลอดเส้นทาง ได้เวลาเข้าที่พักของเราแล้ว คืนนี้เราเลือกพักที่
“โรงแรมมินท์ธารา” ในตัวเมืองน่าน อยู่ไม่ไกลจาก
“วัดภูมินทร์” เพียง 300 เมตร เดินไปเที่ยวได้สบายๆ
หลังจากเช็คอินเสร็จ เก็บข้าวของในห้องพักเสร็จเรียบร้อย (เหมือนเดิม ไม่ทันได้ถ่ายรูปที่พักอีกแล้ว) พักหายเหนื่อยสักพัก เราก็ออกเที่ยวตอนเย็นในเมืองน่านกัน
วันนี้ในเมืองน่านมีงานประเพณีแข่งเรือ และมีงานกิจกรรมปัวแบรนด์บริเวณตรงข้าม
“กาดข่วงเมืองน่าน” ทำให้เขางดขายของที่ถนนคนเดินน่าน ฮือๆๆ อดเลย แต่ไม่เป็นไร เราก็เที่ยวงานประจำปีของน่านไปซึ่งจัดเพียงปีละครั้ง 555
[
attachment=4843]
วัดภูมินทร์ยามเย็น วันนี้ได้ถ่ายรูปแค่ด้านนอก พรุ่งนี้เราจะเข้าไปชมกัน ไฮไลท์อยู่ที่ภาพเขียนผนังกระซิบรักบรรลือโลก
[
attachment=4844]
บรรยากาศงานปัวแบรนด์ ซึ่งเป็นงานนำเสนอของดีเมืองปัวให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เดินเที่ยวชมงาน ซื้อของกิน ของที่ระลึกกัน
[
attachment=4845]
[
attachment=4846]
นอกจากนี้วันนี้เรายังมาตรงกับงานประเพณีแข่งเรือที่แม่น้ำน่าน มีของขายมากมายทุกตรอกซอกซอย เดินเที่ยวหาของกินกันเพลินจนเมื่อย ก็ได้เวลากลับพักผ่อนสำหรับวันนี้แล้วครับ พรุ่งนี้ต้องออกตะลุยเที่ยววัดในเมืองน่านกันต่อ
วันนี้ขอนอนก่อนครับ บายๆ