ThaiBuddyTrip.com - เว็บคู่หูของคนชอบเที่ยว

Full Version: บรรยากาศ 3 ฤดู ที่ กาญจนบุรี-ช่องเขาขาด-อช.ทองผาภูมิ-ป้อมปี่-สังขละบุรี-ถ้ำกระแซ
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3 4
พาเด็กไปเที่ยวปิดเทอม 11-14 เม.ย.52 พบอากาศสามฤดูในคราวเดียวของทริปนี้ คือ หนาวเย็น+ฝนชุ่มฉ่ำ+ร้อนตับแลบ.......

กาญจนบุรี-สุสานดอนรัก-ช่องเขาขาด-อช.ทองผาภูมิ-ป้อมปี่-ด่านเจดีย์สามองค์-หลวงพ่ออุตมะ-สะพานมอญ-เมืองบาดาล-สังขละบุรี-เกริงกระเวีย-บ่อน้ำร้อนหินดาด-ถ้ำกระแซ

[attachment=1688]
เช้าวันที่ 11 เม.ย.52 ที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว

ที่นี่เปิดไฟ แสงสีให้ชม ยามค่ำคืน ถึง 22.00 น ทุกวัน

[attachment=1689]

[attachment=1691]

[attachment=1692]
คุณ bon_nui มีทริปมาฝากอีกแล้ว
เข้ามาติดตามบรรยากาศครับ หุหุ
บรรยากาศยามเช้าวันนี้ อากาศปลอดโปร่ง..มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเดินชมก่อนเรา 3-4 ท่าน

มีความตั้งใจคอยชม ขบวนรถไฟขบวนแรก ที่จะผ่านสถานีนี้ ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแคว ปลายทางที่จุดสิ้นสุดรางรถไฟ ที่สถานีน้ำตก

[attachment=1693]

[attachment=1694]

[attachment=1695]
Nobita เขียน:คุณ bon_nui มีทริปมาฝากอีกแล้ว
เข้ามาติดตามบรรยากาศครับ หุหุ

+++++++++++++มิเคยลืมเพื่อนที่นี่ มีภาระด้านเวลา+++++++++++
สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก ตั้งอยู่ริมถนนแสงชูโต (ทางหลวงหมายเลข 323) เข้าตัวเมือง สุสานแห่งนี้เป็นสุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ

[attachment=1697]

[attachment=1698]

[attachment=1699]
อันนี้อยู่ติดกัน

[attachment=1700]
หลังจากเราท่องเที่ยวครั้งนี้จบสิ้น มีอาจารย์ท่านหนึ่งในคณะของเรา กล่าวว่าเป็นการท่องเที่ยวกาญจนบุรีบรรยากาศ 3 ฤดูกาล
ท่องเที่ยวกาญจนบุรี 3 ฤดู เพราะคณะของเราพบทั้งฤดู หนาว ฝน ร้อน ต่างสถานที่ ต่างบรรยากาศ

ม่านหมอกตลอดเส้นทาง


มีพวกไปคอยอยู่ที่เส้น 323 ช่วง กาญจนบุรี-อ.ทองผาภูมิ คงคอยเราอยู่ที่เส้นทางนี้นะ กำลังตามๆกันไป เพื่อชมวิว ทะเลภูเขาและม่านหมอก..

[attachment=1701]

[attachment=1702]
เส้นทาง 323 กาญจนบุรี-ช่องเขาขาด ประมาณ 80 กม. มีป้ายบอกชัดเจนซ้ายมือ
แลกบัตรที่ป้อมยามแล้วขับรถจอดหน้าพิพิธภัณท์ได้เลย...ไม่เสียค่าเข้าชม

พบว่าพื้นถนนยังเปียกอยู่ ฝนเพิ่งหยุดตก เปิด 9.00 น.

[attachment=1703]

[attachment=1704]

[attachment=1705]
ที่นี่แบ่งการการท่องเที่ยวเป็น 2 ส่วน คือภายในอาคาร และภายนอกอาคาร

การเยี่ยมชมที่นี่นักท่องเที่ยวควรเข้าชมในอาคารพิพิธภัณท์ก่อน เพื่อชมประวัติ ภาพประกอบคำบรรยาย

++ระหว่างการสร้างสะพานรถไฟ ให้เสร็จทันกำหนดนั้น เหล่าทหารเชลยศึกฝ่ายพันธมิตร ขนานนามช่องเขาขาดว่า ช่องนรก++

[attachment=1707]

[attachment=1708]

[attachment=1709]
[attachment=1710]

โรมูซา..คือแรงงานชาวเอเซียที่ลำบากมากกว่าเชลยศึก เนื่องจากไม่ทีแพทย์ทหารคอยดูแล

[attachment=1711]

ในช่วงที่เร่งสร้างทางรถไฟให้เสร็จตามกำหนดเรียกว่าช่วง สปิโต หรือตอนเร่งรัด
ช่องเขาขาดยังเป็นอนุสรณ์สถาน ที่ทหารญี่ปุ่นกระทำไว้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

[attachment=1712]

ด้วยเหตุที่ผู้คุมชาวญี่ปุ่นบังคับ ให้นักโทษทำงานในเวลากลางคืน ใช้แสงสว่างจากคบไฟ ซึ่งให้ความรู้สึกว่าที่นี่คือขุมนรกบนโลกจริงๆ
พวกเขาทำงานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ได้หยุดหย่อน ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เพราะนอกจากงานหนักและทารุณแล้ว ยังมีโรคไข้ป่าเล่นงานเชลยศึก หลายคนเจ็บป่วยล้มตายลงเป็นใบไม้ร่วง
เชลยศึก 6 หมื่นคน 20 เปอร์เซ็นต์เสียชีวิต แรงงานอีกไม่ต่ำกว่า 9 หมื่นคน ต้องสังเวยชีวิตระหว่างการก่อสร้างรถไฟแห่งนี้ จนมีผู้เปรียบเปรยว่า 1 หมอนรางรถไฟเท่ากับ 1 ชีวิตของเหล่าเชลยศึก

[attachment=1713]
[attachment=1714]

ขณะอายุได้ 17 ปี ทอมสมัครเข้าเป็นทหารยศสิบโท กองพลน้อยที่ 22 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2484 เขาถูกจับเป็นเชลยศึกระหว่างทำสงครามที่สิงคโปร์ เดือนกุมภาพันธ์ 2485 หลังจากนั้นถูกนำตัวมากักขังในฐานะเชลยศึกนานถึง 3 ปี ในกองกำลังเอฟอร์ซ (A-Force) ระหว่างถูกคุมขังทอมถูกบังคับให้ทำงานก่อสร้างทางรถไฟไทย-พม่าสายประวัติศาสตร์นี้ และถูกนำตัวไปขังไว้ตามค่ายทหารต่างๆ ถึง 10 ค่าย จนเป็นต้นเหตุให้เขาติดเชื้อไข้มาลาเรียและโรคบิด ต่อมาเขาได้ทำหน้าที่ทหารเสนารักษ์ คอยช่วยเหลือเชลยศึกคนอื่นๆ ในค่ายพยาบาลบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 55
--------------------------------------------------------------------------------


...............โดยทอมได้นำเสนอข้อมูลต่อรัฐบาลออสเตรเลีย เพื่อของบประมาณบูรณะพัฒนาช่องเขาขาดให้เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ในลักษณะกองทุน โดยเงินก้อนแรกถูกส่งมาเมื่อปี 2530 ถูกนำไปใช้ในการก่อสร้างอนุสรณ์สถานช่องเขาขาด ต่อมาปี 2537 ได้รับเงินสนับสนุนอีกครั้ง จึงนำไปใช้สร้างพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานช่องเขาขาด เพื่อจัดแสดงมินิเธียเตอร์และรวบรวมข้อมูลภาพถ่าย ข้าวของเครื่องใช้ ระหว่างการก่อสร้างทางรถไฟสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือเมื่อ 70 ปีก่อน โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2542 --------------------------------------------------------------------------------
เส้นทางเดินชมถูกสร้างอย่างดีเยี่ยม แม้นพื้นจะเปียกแต่มีวัสดุกันลื่นอย่างดีที่พื้นและราวจับ

[attachment=1718]
เป็นสวนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะ ที่เชลยศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัดเจาะภูเขาหินด้วยมือ ปราศจากเครื่องมืออันทันสมัยให้เป็นช่อง สำหรับสร้างทางรถไฟ ปัจจุบันยังมีร่องรอยของทางรถไฟปรากฏอยู่

[attachment=1719]

[attachment=1720]
จากอาคารพิพิธภัณฑ์ เราสามารถขอเครื่องเล่นเสียงคำบรรยายพร้อมหูฟัง เพื่อเดินชมทางรถไฟสายมรณะได้ด้วยตัวเองครับ เมื่อถึงจุดที่มีป้ายแบบนี้ เราก็เลือก Track ที่ระบุไว้บนป้ายเพื่อรับฟังเสียงบรรยายจากเครื่องเล่นได้เลย !!

[attachment=1721]
ภายในบริเวณมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไปยังช่องเขาขาด ซึ่งเป็นสวนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะ ที่เชลยศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัดเจาะภูเขาหินด้วยมือ
ปราศจากเครื่องมืออันทันสมัยให้เป็นช่อง สำหรับสร้างทางรถไฟ ปัจจุบันยังมีร่องรอยของทางรถไฟปรากฏ

[attachment=1724]

[attachment=1723]
มีการดูแลรักษาอย่างดี
เดินตามรอยรางรถไฟ ที่ตักช่องเขา เป็นทางรถไฟ ที่สมัยสงครามโลก ญี่ปุ่น เอาเฉฉลยศึกตัดทางรถไฟเส้นนี้ ไปพม่า..เดินไปเรื่อยๆ ก็จะมีจุดที่ไวอาลัย

--------------------------------------------------------------------------------

วันนี้ที่ช่องเขาขาดจะปราศจากคบไฟ แรงงานเชลยศึก และการทรกรรม แต่หินทุกก้อน ต้นไม้ทุกต้น ก็มีเรื่องราวให้เล่าขานถึงเหตุการณ์เมื่อวันวาน

มีคนเข้าชม 80,000-100,000 คน/ปี


[attachment=1725]

[attachment=1726]
................
ข้อมูลเวลา
06.00-8.00 น...สะพานข้ามแม่น้ำแคว+สุสานดอนรัก
8.00 -11.30 น...อ.เมืองกาญจนบุรี+ช่องเขาขาด+อาหารเช้า ถึงปลายทางตลาด อ. ทองผาภูมิ


[attachment=1727]
จะขึ้นไปที่บ้านอีต่อง และค้างคืนที่ ดินแดนแห่งป่าฝนหนาว และม่านหมอก เป็นคืนที่ที่ 1 โดยเดินทางออกจากตลาดทองผาภูมิเข้าสู่เส้นทางท่องเที่ยวเส้น 3272 เป้าหมายแรกคือชม เขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือเขื่อนเขาแหลม

[attachment=1728]
Pages: 1 2 3 4
Reference URL's