ThaiBuddyTrip.com - เว็บคู่หูของคนชอบเที่ยว

ความนิยมในรสชาติ “กาแฟ” ของผู้คนในปัจจุบันทำให้ “กาแฟ” กลายเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่ต้องมีติดไว้ตามบ้านเรือนและสำนักงานต่าง ๆ ยิ่งเป็น “ กาแฟสดหอมกรุ่น ” ไม่ว่าจะเป็น กาแฟเย็น กาแฟร้อน ก็ดูจะเป็นที่ถูกใจของบรรดาคอกาแฟมากขึ้นไปอีกเพราะกลิ่นที่หอมและรสชาติที่เข้มข้นของ กาแฟสด นั้นจะช่วยปลุกความสดชื่นได้เป็นอย่างดี หลายคนจึงนิยมหา เครื่องชงกาแฟ สดมาติดไว้ที่บ้านหรือสำนักงานเพื่อจะได้ชงดื่มได้ทุกที่ทุกเวลาตามที่ต้องการโดยไม่ต้องเสียเวลาออกไปตามร้านกาแฟ




Nespresso เป็น เครื่องชงกาแฟ espresso ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันเพราะมีฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกง่ายดายกว่าวิธีการชงกาแฟแบบเดิม ๆ ที่ต้องรอเวลาน้ำเดือด ต้องคอยเตรียมปริมาณกาแฟให้มีความเหมาะสมในการชงแต่ละเมนูและถ้าหากเป็นเมนูกาแฟผสมนมแล้วยังต้องเตรียมนมสำหรับใส่ในเมนูกาแฟอีกด้วย นอกจากนี้ เครื่องทำกาแฟสด Nespresso ยังสามารถรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มได้อย่างหลากหลายตามรสชาติที่โปรดปรานเหมือนกับที่เสิร์ฟในร้านกาแฟแต่ใช้งบประมาณแบบสบายกระเป๋าและมีหลายรุ่นให้เลือกตามต้องการ แต่ที่ขอแนะนำในวันนี้เป็น 3 รุ่นท็อปฮิตของ Nespresso ซึ่งประกอบด้วย

รุ่น Lattissima Touch White เป็นรุ่นใหญ่สุดของเครื่อง Nespresso โดย วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ รุ่นนี้ถือว่าง่ายและสะดวกมาก ๆ เพียงแต่เติมน้ำใส่ในแท็งก์น้ำด้านหลังเครื่องซึ่งมีความจุ 0.9 ลิตร สามารถชงกาแฟได้ราว 5 - 7 แก้ว โดยเครื่องนี้สามารถจัดเตรียมกาแฟได้ถึง 6 รสชาติผ่านปุ่มแบบสัมผัส 6 ปุ่ม ได้แก่ Espresso, Lungo, Cappuccino, Latte, ครีมลาเต้และฟองนมอุ่น ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นเดียวที่มีแท็งก์นมสามารถทำกาแฟสูตรนมและฟองนมได้อย่างสะดวกจึงเหมาะมากสำหรับบรรดาคอกาแฟใส่นม
รุ่น CitiZ เป็นเครื่องขนาดกลางที่มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย สามารถทำกาแฟ Espresso 40 มล. และ Lungo 110 มล. แบบอัตโนมัติ วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ รุ่นนี้ก็สุดแสนจะสะดวกและง่ายดาย เพียงแค่เติมน้ำใส่แท็งก์นำแคปซูลกาแฟใส่ช่องที่กำหนดแล้วกดเลือกขนาดกาแฟที่ต้องการ เครื่องก็จะทำงานอัตโนมัติชงกาแฟแก้วโปรดออกมาได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
รุ่น Essenza - Mini เป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดมากที่สุดถือเป็นสไตล์มินิมอลสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างง่ายดายด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 2.3 กิโลกรัม โดยเป็นรุ่นที่สามารถทำกาแฟแบบ Espresso 40 มล. และ Lungo 110 มล. แบบอัตโนมัติ โดยใช้วิธีการแบบเดียวกับรุ่น CitiZ คือ เติมน้ำใส่ในแท็งก์นำแคปซูลกาแฟใส่ตามตำแหน่งที่กำหนดไว้และกดเลือกขนาดกาแฟที่ต้องการ จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเครื่องที่จะทำงานอัตโนมัติเพียงเท่านี้ก็ได้รสชาติกาแฟที่ชื่นชอบทุกเวลาที่ต้องการ
ต้องถือว่าเครื่องชงกาแฟทั้ง 3 รุ่นนี้มีฟังก์ชันการทำงานที่สะดวกใกล้เคียงกันแต่จุดที่ต่างกันชัดเจนและเป็นข้อพิจารณาสำหรับการตัดสินใจเลือกรุ่นก็คือ ดีไซน์ ขนาดของตัวเครื่อง ขนาดแท็งก์น้ำและความหลากหลายของประเภทกาแฟที่ชงได้
นอกจากเครื่องชงกาแฟที่มีฟังก์ชันการใช้งานครบตามความต้องการเสมือนมีบาริสต้าอยู่ใกล้ ๆ ตัวแล้ว เหตุผลที่ผู้คนต่างเลือก Nespresso ก็เพราะความหลากหลายของรสชาติกาแฟที่อยู่ในรูปของแคปซูล ซึ่งมีให้เลือกถึง 25 รสชาติและยังมี Limited Edition ออกมาให้ลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยตัวแคปซูลกาแฟของ Nespresso นั้นยังทำมาจาก Aluminum ที่ช่วยปกป้องรสชาติและกลิ่นของกาแฟได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถส่งกลับไป Recycle ได้จึงเข้ากับเทรนด์รักษ์โลกเป็นอย่างมาก และที่สำคัญก็คือทุกรุ่นของ Nespresso จะมีการรับประกันนานสูงสุดถึง 2 ปี ด้วยแรงดันที่สูงถึง 19 BAR ขณะที่เครื่องของแบรนด์อื่นจะมีแรงดันอยู่เพียง 15 BAR เท่านั้น หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องชงกาแฟรวมถึงแคปซูลกาแฟของ Nespresso เพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.nespresso.com/th/th