สวัสดีครับ ช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมาเป็นช่วงหยุดยาว 3 วันแรกของปีใหม่นี้ เมื่อไม่มีอะไรทำก็นอนอยู่บ้านดูทีวีถือเป็นการพักผ่อนที่ดีและประหยัดไปอีกทาง แต่ดูทีวีดูไปดูมาเจอรายการหนึ่งพาไปเที่ยวอัมพวาครับ พาไปชมสถานที่สวยๆ และน่าสนใจทั้งนั้น เท่านั้นล่ะครับกิเลสอยากชมธรรมชาติในตัวผมก็ได้พุ่งปี๊ดขึ้นแถมก็ยังเหลือวันหยุดอีกตั้ง 2 วันคือวันอาทิตย์กับวันจันทร์น่าจะพอไปเที่ยวได้ เช้าตรู่วันอาทิตย์ก็เลยโทรหาเพื่อนพร้อมได้รับการตอบตกลงออกเดินทางกันในตอนบ่ายทันที
ทริปนี้ก็เหมือนกับอีกหลายๆ ทริปที่ผ่านมาของผมคือ ไม่ได้เตรียมข้อมูล ไม่ทราบว่าไปทางไหน และไม่ได้จองที่พัก หุหุหุ สิ่งเหล่านี้มันช่างเป็น Default ของผมจริงๆ เอ้อ...
เราออกเดินทางจาก กทม. มุ่งตรงสู่จังหวัดสมุทรสงครามทันที โดยใช้ถนนพระราม 2 ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงเศษก็ถึงจังหวัดสมุทรสงคราม
[
attachment=1031]
แต่ก่อนที่จะเข้าไปยังอัมพวาเราก็ได้แวะเที่ยว
“ดอนหอยหลอด” ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของสมุทรสงครามเช่นกัน แต่ถ้าอยากจะมาจับหอยหลอดด้วยชาวบ้านเขาบอกว่าต้องมาช่วงเดือนพฤษภาคมซึ่งจะน้ำลดเหมาะกับการจับหอยหลอด และยังมีงานเทศกาล
“ตะวันรอน ดอนหอยหลอด” ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีในเดือนพฤษภาคมด้วย (สนใจสอบถามได้ที่ อบต.บางจะเกร็ง โทร.034-723749) ทริปนี้เราก็เลยยังไม่ได้ลองจับหอยหลอด เอาไว้คราวหน้าก่อนล่ะกัน
ขับรถไป มองหาที่จอดในดอนหอยหลอดไป ก็มาถึงร้านอาหาร
“ผู้ใหญ่บุญธรรม” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณดอนหอยหลอด ตัวร้านติดทะเล ลมพัดเย็นสบาย เดินทางมาไกลได้นั่งพักทานอาหารหายเหนื่อยเลยครับ
[
attachment=1032]
[
attachment=1033]
[
attachment=1028]
เมื่อทานอาหารอิ่มหมีพีมันแล้ว เราก็ออกท่องตลาดที่ดอนหอยหลอด ซึ่งจะเต็มไปด้วยอาหารทะเลนานาชนิด ทั้งสด ทั้งสุกพร้อมทานมากมาย เหมาะสำหรับคนชอบกินมากๆ
[
attachment=1029]
ที่นี่จะมีบริการเรือล่องชมวิวรอบๆ ดอนหอยหลอดด้วย แต่วันนี้เรามาบ่ายแล้วเลยไม่มีเวลาได้นั่งเรือ
[
attachment=1030]
เมื่อเที่ยวดอนหอยหลอดจนพอใจแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อจากดอนหอยหลอดมุ่งหน้าตรงสู่เป้าหมายในทริปนี้ นั่นก็คือ
“อัมพวา” นั่นเอง เย้... ปิ๊ง ถึงแล้วไวเหมือนโกหก เรามาถึงอัมพวากันประมาณ 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่คึกคักได้ที่ โดยกว่าที่เราจะมายืนตรงนี้ได้ก็ต้องเผื่อเวลากับรถติดและก็การหาที่จอดรถพอสมควรนะครับ ถ้าเป็นไปได้ก็ให้หาที่ฝากรถที่สะดวกแล้วเดินเข้ามาจะเร็วกว่านะครับ
[
attachment=1040]
สะพานนี้มีใครมาแล้วไม่ได้ถ่ายภาพบ้างครับ ยกมือขึ้น หุหุ
[
attachment=1041]
มาถึงแล้วก็ตะลุยตลาดกันเลยครับ เป็นไปตามที่ได้ยินมาจริงๆ ครับ คือ จะพบกับบรรยากาศริมน้ำแบบวีถีชีวิตชุมชนดั้งเดิม ร่มรื่น สวยและมีร้านค้าของที่ระลึกมากมาย สำหรับสาวๆ ที่ชอบรับประทานอาหารชนิดต่างๆ ก็มีบริการเพียบ รับรองไม่ผิดหวังครับ มากมายจริงๆ
[
attachment=1042]
[
attachment=1043]
[
attachment=1044]
ระหว่างที่เดินชมตลาดก็หาที่พักไปครับ เราสอบถามอยู่ 3-4 ที่ก็ได้มาพบกับ
“บ้านแม่อารมย์ โฮมสเตย์” หลังจากสอบถามรายละเอียดและเข้าไปดูห้องพักแล้ว เราก็ OK สรุปใจความได้ว่า พัก 1 ห้อง 4 คน คนละ 300 บาท Check out เวลา 13.00 น. ที่นี่บริการเป็นกันเองมากครับ มีอะไรก็สอบถามได้ อำนวยความสะดวกสบายได้ดีมาก ติดต่อห้องพักบ้านแม่อารมย์ได้ที่เบอร์ 081-8566861 หรือ 034-751245 ครับ
บรรยากาศในห้องพักครับ เป็นห้องแอร์ ผนังเป็นไม้ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ชุดที่นอนสะอาด พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันแต่ไม่ได้เอารูปมาลงเดี๋ยวรูปจะเยอะไป อิอิ
[
attachment=1045]
ตรงนี้เป็นมุมสบายๆ ซึ่งมี Wireless internet บริการฟรี เจ๋งเลย ความเร็วปรู๊ดปร๊าด เอาโน้ตบุ๊คไปก็ทำงานได้ไปในตัวครับ (หุหุ ขนาดไปเที่ยวแล้วก็ยังพกงานไปด้วยอีก รักงานๆ) มีกาแฟ โอวัลติน มาม่งมาม่าและขนมอื่นๆ พร้อมถ้วยชาม ช้อน เวลาจะทานก็บริการตัวเองพร้อมกับหยอดเงินลงในกระปุกด้วย (ห้ามโกงละ)
[
attachment=1046]
นี่เป็นโซนห้องน้ำครับ ก็อยู่คนละด้านกับภาพด้านบน มีประมาณ 5-6 ห้อง ติดเครื่องทำน้ำอุ่นทุกห้อง สะอาดและสะดวกครับ
[
attachment=1047]
เมื่อเราได้ที่หลับที่นอนพร้อมเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วก็ออกเที่ยวตลาดกันอีกรอบอย่างสบายใจขึ้น (มีที่นอนแล้ว...)
อันนี้เอามาฝากเผื่ออยากสอบถามหลายๆ ที่ครับ
[
attachment=1048]
เริ่มเย็นแล้ว ร้านค้า บ้านเรือนต่างๆ ก็เริ่มเปิดไฟ แสงสีเริ่มเข้ามาแทนที่แสงจากดวงอาทิตย์ บรรยากาศช่างสวยงามจริงๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมคือ นักท่องเที่ยวยังคงเยอะมากๆ ไม่ต่างไปจากเมื่อตอนกลางวัน ต่างเดินกันขวักไขว่เพื่อร่วมสัมผัสบรรยากาศกันอย่างเต็มที่
[
attachment=1049]
[
attachment=1050]
[
attachment=1051]
หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่พัก ทานอาหารหน้าบ้านติดแม่น้ำ นั่งโบกไม้โบกมือรับส่งกันกับเรือนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมา และก็รอเวลาเพื่อล่องเรือออกไปชมหิ่งห้อยซึ่งเป็นไฮไลท์ประจำคืนนี้
[
attachment=1052]
[
attachment=1053]
และแล้วก็ถึงเวลาไปชมหิ่งห้อยกันแล้ว เราออกจากที่พักประมาณ 20.30 น. ครับ
[
attachment=1054]
ล่องเรือมาได้ประมาณชั่วโมงกว่าก็จะถึงจุดพักชมวิถีชีวิตพื้นบ้าน การทำน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งให้ชิมฟรีสำหรับนักท่องเที่ยว
[
attachment=1055]
[
attachment=1056]
จากนั้นก็ล่องเรือต่อโดยใช้เวลาในการล่องเรือทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ก็กลับถึงที่พัก ที่บ้านแม่อารมณ์นี้เขาพาเราไปคนละทางกับผู้ให้บริการรายอื่นนะครับ ดังนั้นเวลาที่ใช้ในการล่องเรืออาจไม่เหมือนกับรายอื่นๆ (การล่องเรือไปทางไหนๆ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการครับ) การล่องเรือจะเป็นการวนไปเรื่อยๆ จนกลับมาที่พักนะครับ ไม่ได้หันหัวเรือแล้วกลับมาทางเดิม
ข้อแนะนำในการล่องเรือชมหิ่งห้อย
สิ่งที่ควรจะเตรียมไปด้วย
1.เสื้อแขนยาวหรือผ้าพันคอ เพราะว่าเวลาที่เรือวิ่งไปในท้องน้ำ อากาศจะเย็นกว่าที่เรานั่งอยู่ที่บ้าน ดังนั้นควรเตรียมเสื้อแขนยาวไปเผื่อด้วย
2.ผ้าเช็ดหน้า เมื่อนั่งไปนานๆ สำหรับคนไม่ค่อยคุ้นการนั่งเรือ อาจเหนียวตัวหรือรู้สึกเหนอะหนะ จะได้มีผ้าเช็ดครับ
เมื่อความสนุกยามค่ำคืนผ่านไป บรรยากาศยามเช้าก็เข้ามาแทนที่อีกครั้ง ทุกอย่างกลับเข้าสู่ความสงบตามธรรมชาติโดยแท้จริง แสงสีเมื่อคืนถูกปิดลง ไม่มีเรือผ่านมา ท้องน้ำสงบ ใส นิ่งและเย็น
[
attachment=1057]
พอตกสายหน่อยก็จะเริ่มมีเรือขายของมาแวะหน้าบ้านเรา เรือขายของผลัดกันไปผลัดกันมา มีทั้งก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ หอยทอด ชา กาแฟและอีกหลายอย่างที่เรือแต่ละลำจะนำมาเสิร์ฟให้ถึงบันไดหน้าบ้าน
[
attachment=1061]
ตบท้ายด้วยการปฏิบัติตามหลักปฏิบัติแถวนี้ (รึเปล่า) ด้วยการต้องสวมเสื้ออัมพวาถ่ายรูปกันและเป็นของฝาก ของที่ระลึกติดตัวกลับบ้าน เห็นทำกันเยอะมากเลยเอาด้วย 555
[
attachment=1062]
กิจกรรมอีกอย่างที่บ้านแม่อารมณ์จัดไว้บริการก็คือ การเช่าจักรยานปั่นชมประเทศไทย 555 เวอร์ไปนิด จริงๆ ก็ปั่นชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ที่อัมพวานั่นละครับ โดยเขาจะมีแผนที่ให้ว่าควรไปที่ไหนบ้าง ใช้เวลาเท่าไร ค่าบริการก็ไม่แพงครับ ถ้าเช่าเป็นชั่วโมงคิดชั่วโมงละ 20 บาท ถ้าเหมาวัน 80 บาท น่าเสียดายที่เรามีเวลาน้อยไปหน่อย อาจจะเรียกได้ว่า 2 วันกับ 1 คืนนี้ไม่พอกับการเที่ยวให้ทั่วอัมพวาครับ ก็เลยได้แต่เก็บภาพมาฝากครับ
[
attachment=1063]
แล้วพบกันทริปหน้าครับ
ขอขอบคุณที่เผื่อแผ่แก่ผู้ที่ไม่มีเวลา
งามมากครับ ได้ดูวิถีชีวิต คนริมคลองด้วบ
ดูรปแล้ว รู้สึก..เที่ยวแบบเข้าถึง..มากเลย ..
เคยไปมาหลายครั้งเหมือนกันนะ ....แต่ไม่เคยเข้าถึงวิถีชีวิตขนาดนี้ ....
ส่วนมากก็ไปเดินเล่น หาของกิน ถ่ายรูป พาครอบครัวไปเที่ยววัด ....
อยากไปนอนค้างบ้างจัง ..มีโอกาสว่าจะลองดูค่ะ ......
[
attachment=1551]
ถ้ามีโอกาสก็ผมคงไปอีกครับ เพราะก็ยังไม่ได้ไปอีกหลายที่ และแถวนั้นก็ยังมีที่ท่องเที่ยวอีกหลายที่ใกล้ๆ อัมพวา เช่น ตลาดน้ำดำเนินสะดวกผมก็ยังไม่เคยไป