ThaiBuddyTrip.com - เว็บคู่หูของคนชอบเที่ยว

Full Version: ทริปหลบร้อน ไปแว้นมอเตอร์ไซค์ คลายร้อนที่เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
ชะแว้บ... มาแล้วๆ วันนี้มีทริปสนุกๆ ไปง่ายๆ มาฝากกันอีกแล้วครับ เหตุเกิดจากช่วงนี้อากาศร้อนเหลือเกิน งานก็หนักขึ้นทุกวันๆ ปวดหัว เหนื่อย เมื่อย ล้า ท้อ… บลาๆๆๆ แถมวันหยุดก็ยังน้อยนิด มีเวลาแค่ 2 วันกับ 1 คืน ก็เลยเป็นที่มาของ “ทริปเกาะสีชัง” นี่ล่ะครับ (ข้อมูลท่องเที่ยวเกาะสีชัง)

เรามาถึง “เกาะลอย” ที่ศรีราชากันเวลาประมาณ 9 โมงกว่า และเรือออกจากฝั่งเกาะลอย 10 โมงครับ ค่าเรือโดยสารคนละ 50 บาทขาดตัว

[attachment=4500]
เรือออกแล้ว มุ่งหน้าสู่เกาะสีชัง

[attachment=4501]
ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็จะถึงเกาะสีชังแล้ว… แต่… สำหรับท่านที่ยังไม่เคยไปเที่ยวเกาะสีชังมาก่อนอาจจะเสียเชิงได้กับเกาะแรกที่เรือจอดนะครับ เพราะเกาะแรกที่เรือจอดนั่นคือ “เกาะขามใหญ่” ครับ โดยปกติเรือจะจอดส่งสินค้าจำพวกอาหาร เครื่องดื่ม น้ำแข็งให้กับเกาะขามใหญ่ครับ เอาง่ายๆ ว่าหากเห็นคนส่วนใหญ่ลงกันตอนไหน เราค่อยลงตอนนั้น 555+

เมื่อมาถึงเกาะเราก็จัดแจงเช่ามอเตอร์ไซค์สำหรับทริปนี้ที่หน้าท่าเรือกันทันที ทริปนี้ได้เจ้า Honda Scoopy-i สนนราคา 300 บาทต่อวันพร้อมน้ำมันจำนวนหนึ่ง คือมันไม่เต็มถังนะ น่าจะประมาณลิตรนิดๆ จากนั้นก็ขี่ไปยัง “เอเดรียน วิว รีสอร์ท” ซึ่งได้จองล่วงหน้าก่อนมาแล้ว

[attachment=4502]
เมื่อจัดแจงเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เราก็ปรึกษาอากู๋เกิลว่ามื้อเที่ยงนี้จะทานอาหารที่ไหนดี ก็ได้คำแนะนำว่า “เล็กท่าวัง” เป็นคำตอบแนะนำครับ เราจึงมุ่งหน้าสู่เล็กท่าวังทันทีเพราะหิวมากแล้ว
[attachment=4503]
เมื่อทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ไหนๆ เราก็ขี่รถมาทางท้ายเกาะนี้แล้ว จุดหมายแรกของเราจึงเป็น “พระราชวังจุฑาธุชราชฐาน” โดยไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ “สะพานอัษฏางค์” สีขาวล้วนยื่นลึกลงไปในทะเล สวยงามมากๆ ครับ

[attachment=4504]

[attachment=4505]
[attachment=4506]
มาถึงแล้วคร๊า…

[attachment=4508]
หลังจากเก็บภาพกับสะพานอัษฎางค์เท่าที่จะนึกมุมออกจนพอใจแล้ว เราก็เดินต่อกันเข้าไปด้านในเพื่อสักการะพระบรมรูป ร.5 เพื่อความเป็นศิริมงคลกันหน่อย

[attachment=4507]
วันนี้จะเห็นว่าภายในพระราชวังจุฑาธุชราชฐานมีการประดับประดาโคมไฟน้อยใหญ่มากมายหลายร้อยดวง แต่เราก็ยังไม่ทราบว่าเขาจะมีงานอะไรกันหรือว่างานผ่านไปแล้วแต่ยังไม่ได้เก็บข้าวของ ได้แต่เดิมตามชมเข้าไปเรื่อยๆ ซึ่งก็มีโคมไฟเยอะมากตลอดทางเดิน
[attachment=4509]

[attachment=4510]
เดินเพลินๆ สักพักก็มาถึงยัง “พระเจดีย์ อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิตร” ยิ่งถ้ามองลงมาจากจุดชมวิวจะสวยมาก สีขาวตัดกับต้นไม้เขียวๆ ท้องฟ้าและทะเลสีฟ้า

[attachment=4511]
หลังจากเดินไปจนถึงจุดชมวิว เก็บภาพเรียบร้อยแล้ว ความร้อนของแสงแดดวันนี้ก็ทำให้เราต้องวกกลับมาที่ “หาดทรายแก้ว” ในบริเวณของพระราชวังจุฑาธุชราชฐานอีกรอบ เพื่อลงจุ่มน้ำลดความร้อนกันสักหน่อย น้ำเย็น ใสแจ๋ว…
[attachment=4512]

[attachment=4513]
จากนั้นเราก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับไปยังด้านท่าเรือ เพื่อไปสักการะ “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่” ซึ่งจะขาดเสียไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมเกาะสีชังครับ

[attachment=4514]
นอกจากจะได้สักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่แล้ว ที่นี่ยังมีจุดชมวิวที่สวยสุดๆ อีกแห่งหนึ่งของเกาะสีชังเลยทีเดียว
[attachment=4515]
ขออีกสักรูป ...เรือเล็กจูงเรือใหญ่…

[attachment=4516]
จากนั้นเราก็ขี่มอเตอร์ไซค์วกกลับลงมาด้านล่างของเกาะอีกรอบ ทริปนี้เราใช้รถได้คุ้มกับน้ำมันที่ได้มาจริงๆ ^__^ รอบนี้เป็นอีกจุดไฮไลท์ของนักเล่นน้ำ นั่นก็คือ “หาดถ้ำพัง” หรือ “อ่าวอัษฎางค์” นั่นเอง

[attachment=4517]
หาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็พอดีๆ กับจำนวนนักท่องเที่ยวครับ ไม่เวิ้งว้างหรือว่าอึกทึกจนเกินไป
[attachment=4518]
เมื่อพระอาทิตย์ใกล้ตก ก็ได้เวลามาที่จุดนัดหมาย นั่นก็คือ “ช่องอิศริยาภรณ์ (ช่องเขาขาด)” เพื่อส่งพระอาทิตย์เข้านอนนั่นเอง แต่วันนี้ฟ้ามีเมฆหลัวตอนเย็นเลยอดได้ภาพพระอาทิตย์ไข่แดงตกน้ำเลย…

[attachment=4519]
และแล้วไฮไลท์อีกอันหนึ่งที่สงสัยเมื่อกลางวันก็มาถึง ก่อนออกไปทานอาหารเย็นเราก็ลองแวะกลับเข้าไปในพระราชวังจุฑาธุชราชฐานอีกรอบ เพื่อที่จะดูว่าโคมไฟจำนวนมากที่เห็นเมื่อกลางวันเขากำลังจะมีงานหรือมีงานเสร็จไปรึยัง

ระหว่างที่เดินชมอยู่นั้นก็ได้เจอกับเจ้าหน้าที่ที่กำลังเตรียมงาน เขาบอกว่าพรุ่งนี้จะมีงานเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา ขอเชิญอยู่ร่วมงานด้วยกันสำหรับวันนี้เป็นการทดลองเตรียมความพร้อมของแสง สี เสียง ...แต่พวกเราอยู่ไม่ได้จริงๆ ครับ พรุ่งนี้ก็ต้องกลับไปทำงานแล้ว...

[attachment=4520]
โคมไฟสวยๆ อีกรูปครับ จริงๆ มีเยอะ แต่ถ่ายรูปให้สวยยาก ฝีมือไม่ถึง ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองครับ
[attachment=4521]
เห็นโคมไฟสวยแล้ว ยังมีอีกที่ที่แสงไฟสวยไม่แพ้กันอีกที่นั่นก็คือประภาคารบริเวณท่าเรือนั่นเองครับ มีหลายสีเล่นวนกันไป มองดูแล้วสบายตาสบายใจครับ

อิ่มหนำทางสายตากันไปแล้วก็ได้เวลาพาท้องไปอิ่มหนำกันบ้างแล้ว เริ่มหิวแล้ว… มื้อเย็นนี้เราเลือกร้าน “ไอทะเล” เป็นคำตอบครับ อาหารอร่อย บรรยากาศร้านติดทะเล ทานชิลๆ สบายๆ แนะนำครับ

ผ่านไปแล้วหนึ่งคืน ตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าที่ที่พักเสร็จสรรพก็ออกตระเวนเก็บจุดสำคัญๆ กันต่อครับ เพราะเรือออกจากเกาะสีชังเที่ยวที่เราหมายตาไว้คือเที่ยว 11.00 น.ครับ เวลาช่วงนี้จึงมีค่ามาก ต้องใช้ให้คุ้มครับ

[attachment=4522]
เริ่มกันที่นมัสการ “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งแม้จะอยู่สูงบนเขาแต่ก็มีถนนให้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปถึงได้สบายๆ แม้ทางจะชันไปหน่อยแต่ก็โอเคครับไปไม่ยาก

แต่ที่ยากก็มีครับ และเราก็ไปมาแล้ว โดยต้องเดินขึ้นบันไดจากรอยพระพุทธบาทต่อไปอีกประมาณ 345 ขั้น (แฮกๆๆ.. เหนื่อย)

[attachment=4523]
นี่ครับ จุดสูงที่สุดของเกาะสีชัง เรามาถึงแล้ว “ยอดเขาพระจุลจอมเกล้า” ข้างบนนี้จะมีธงชาติและเสาโทรเลขที่ใช้ในการส่งโทรเลขไปยังกรุงเทพฯ ในสมัยนั้น
[attachment=4524]
ในบริเวณเดียวกันยังมีรอยจารึกเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จทรงพิธียกเสาธงที่เกาะสีชัง เมื่อ 14 สิงหาคม รัตนโกสินทร์ศก 110 ด้วย

[attachment=4525]
นี่คือ Scoopy-i คู่ใจประจำทริปนี้ครับ ใช้ดีมาก ขึ้นเนินเขาชันได้สบายๆ

[attachment=4526]
จะจบทริปนี้แล้ว ยังขาดอีกที่ที่ยังไม่ได้ไป นั่นก็คือ “ถ้ำจักรพงษ์และพระเหลือง” ต้องแว้นมอเตอร์ไซค์ไปสักหน่อย และนี่ก็คือวิวมองจากด้านหลังขององค์พระลงมายังตัวเกาะครับ
[attachment=4527]
ในที่สุดเราก็ต้องลาเกาะสีชังไปก่อนล่ะครับ ออกจากเกาะสีชังเวลา 11:00 น. ตามกำหนดเป๊ะ มอเตอร์ไซค์ก็เอามาคืนที่ท่าเรือเลย สะดวกมากครับ

[attachment=4528]

[attachment=4529]
กลับมาถึงฝั่งอย่างปลอดภัยประมาณเที่ยง เวลายังมี มาตามเราไปต่อกันที่ ทริปถ่ายภาพแนวสามมิติ (3D) ที่ Art in Paradise พัทยา นะครับ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ มีคอมเม้นต์หรือข้อแนะนำฝากไว้ได้นะครับ
Reference URL's