ThaiBuddyTrip.com - เว็บคู่หูของคนชอบเที่ยว

Full Version: ทริปท้าหนาว สัมผัสธรรมชาติกลางไพร ที่ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
สวัสดีครับ หลังจากที่เมื่อวานเราไปเที่ยว พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ กันมาแล้ว เช้านี้ก็เป็นคิวที่เราจะออกเดินทางจากเชียงใหม่สู่แม่ฮ่องสอนกันแล้ววว...

เราออกเดินทางจากฟ่อนคำ รีสอร์ท จ.เชียงใหม่ (อันนี้ผมจองผ่านอินเตอร์เน็ตก่อนมา สะดวกดี) ราว 8 โมงเช้า มุ่งหน้าสู่เป้าหมายแรกคือ "ปาย" หรืออำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน นั่นเอง

ระยะทางจากเชียงใหม่ถึงปายประมาณ 128 กม ครับ แผนแรกเลยคือคืนนี้จะนอนที่ปายแต่เนื่องจากเราไปถึงปายประมาณเที่ยง เมื่อไปถึงปายแวะร้านกาแฟ แต่ไม่ใช่ร้าน "Coffee in Love" นะครับ เพราะว่าคนเยอะมากๆๆ มากจริงๆ เล่นเอารถติดได้เลย เห็นว่ามีเวลาเหลืออีกหลายชั่วโมงกว่าจะเย็น เลยตัดสินใจแผนใหม่ ไปนอน "ปางอุ๋ง" ก่อนดีกว่าแล้วค่อยกลับมานอนปายพรุ่งนี้แทน

ขึ้นเขาอย่างนี้น้ำมันเป็นสิ่งจำเป็นมากนะครับ มีโอกาสเติมเมื่อไรจัดหนักให้เต็มเลยครับ เราเติมเต็มครั้งแรกก่อนออกมาจากเชียงใหม่ แล้วก็มาเติมเต็มอีกครั้งที่ปาย ระยะทางจากปายไปปางอุ๋งประมาณ 110 กม ครับ

[attachment=4168]
เส้นทางหมายเลข 1095 จาก อ.ปาย สู่ปางอุ๋งจะผ่าน อ.ปางมะผ้า ซึ่งมีจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะถ่ายรูปและซื้อของฝาก เราก็เลยแวะกันสักหน่อยถือว่าเป็นการพักอุ่นเครื่องก่อนเดินทางต่อด้วย

[attachment=4169]

[attachment=4170]
ทิวเขาสลับซับซ้อนมองสุดลูกตา นับไม่ถ้วนครับว่ามีทั้งหมดกี่ลูก 555
[attachment=4171]

[attachment=4172]
เจ้าถิ่นครับ เห็นเล่น ร้องซนๆ พอเห็นเราหยิบกล้องขึ้นมาหยุดเล่นแล้วเก๊กท่าให้ถ่ายรูปซะงั้น

หลังจากขับรถจากปายตามถนนหมายเลข 1095 มาเรื่อยๆ ถ้านับระยะทางจากปายมาถึงทางแยกเข้าปางอุ๋งก็จะประมาณ 90 กม นะครับ จะมีป้ายชี้เข้าไป "บ้านรวมไทย" และ "บ้านรักไทย" หรือสักเกตง่ายๆ หากมาจากปายเมื่อถึง "ถ้ำปลา" นั่นก็หมายถึงกำลังจะถึงทางแยกขวามือเข้าไปปางอุ๋งแล้ว (ไม่ถึง 1 km จากถ้ำปลา)

[attachment=4173]
ถนนตามหมายเลข 1095 ก็ไม่เท่าไรครับ ขับมาได้สบายๆ จะมาแคบลงเรื่อยๆ ก็ตรงที่แยกออกจากถนนมานี่แหล่ะ อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษกับรถที่สวนมาและค่อยๆ ไปก็โอเคครับ รถเก๋ง รถกระบะไปถึงได้สบาย

เรามาถึงจุดกางเต็นท์ที่ปางอุ๋ง หรือ "โครงการพระราชดำริปางตอง 2" กันประมาณ 5 โมงเย็นครับ วันนี้คนเยอะมากทีเดียวอาจจะเป็นเพราะเทศกาลหยุดยาวปีใหม่ด้วยล่ะมั๊ง
เราว่าเรามาถึงค่อนข้างจะช้าแล้ว แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเรื่อยๆ ตลอดเหมือนกันครับ แม้แต่มืดดวงอาทิตย์ลาลับแล้วก็ยังมีบางกลุ่มเพิ่งมาถึง

[attachment=4174]
ภาพนี้จริงๆ มืดมากนะครับ แต่ลองใช้โหมดถ่ายในที่แสงน้อยสุดๆ ออกมาให้เห็นความพยายามในการกางเต็นท์ในที่มืด คนหนึ่งส่องไฟฉายอีกคนหนึ่งกางเต็นท์ ดูแล้วทำงานเป็นทีมดี นี่แหล่ะข้อดีของการไปเที่ยวแบบลุยๆ คือต้องช่วยกันทำงาน

กลางคืนอันหนาวเหน็บผ่านไป หนาวมากแค่ไหนเดี๋ยวมีรูปน้ำค้างแข็งมายืนยันครับ อยู่ล่างๆ ของกระทู้นะ

การมาเที่ยวอย่างนี้ไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกครับ เพราะเพียงแค่ดวงอาทิตย์ทำท่าว่าจะมาแล้ว ก็จะมีเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจของนักท่องเที่ยวปลุกกันไปล้างหน้าแปรงฟันบ้าง อาบน้ำบ้าง ถามหากล้อง โน่นนี่นั่น

[attachment=4175]
และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เวลาเช้ามืดที่ทุกคนจะออกไปถ่ายรูปโต้ลมหนาวกับสายหมอกเหนือ "อ่างเก็บน้ำปางตอง"

[attachment=4176]
คนก็ไม่ค่อยเยอะครับ แค่เบาะๆ พอเต็มสันเขื่อนแถมยังยาวล้นไปจนรอบอ่างเก็บน้ำกันเลย โอ้วว แล้วจะได้รูปมุมสวยๆ มาด้วยวิธีไหนกันล่ะเนี่ย...
ไฮไลท์ที่สร้างเสียงฮือฮาอีกอย่างหนึ่งของเช้านี้นั่นก็คือ นั่นไงๆ เห็นมั๊ยออกมาแล้ว เสียงนักท่องเที่ยวต่างชี้ไปทางเดียวกัน ผมก็มองตามเขาไป อ้อ หงส์คู่นั่นเองครับ หงส์ขาวและหงส์ดำอย่างละคู่ว่ายน้ำออกมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้นักท่องเที่ยวรัวชัตเตอร์กัน

[attachment=4177]

[attachment=4178]
และแล้วก็เป็นฤดูแข่งเรือแพหรืออย่างไรไม่ทราบ 555 นักท่องเที่ยวต่างนั่งแพ ล่องออกไป คนนั่งแพก็ถ่ายรูปคนบนฝั่ง คนบนฝั่งก็ถ่ายรูปคนบนแพ เรียกว่ามองจากคนละมุมว่างั้น

[attachment=4179]
[attachment=4180]
นักท่องเที่ยวเยอะจริงๆ ทุกพื้นที่

[attachment=4181]
หลังจากที่ถ่ายรูปจากมุมด้านนอกของอุทยานฯ แล้ว ก็จะต้องเข้าไปข้างในด้วยครับเพื่อให้ได้ภาพที่ครบถ้วนทุกมุมมองรอบอ่างเก็บน้ำ ซึ่งค่าธรรมเนียมของผู้ใหญ่ก็จะอยู่ที่ 20 บาท เด็ก 10 บาท สำหรับชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท

[attachment=4182]
เมื่อเข้ามาด้านในก็จะได้อีกมุมมองที่สุดคลาสสิค ชนิดว่าใครมีความสามารถถ่ายภาพขนาดไหนนี่ต้องงัดออกมาให้หมด เพราะที่นี่สวยจริง
เวลาเริ่มสาย แต่ความสวยของบรรยากาศ ต้นไม้ อ่างเก็บน้ำมีแต่เพิ่มขึ้น..

[attachment=4183]
แสงแดดแรกมาแล้ว ขับให้พื้นที่นี้เป็นสีทองส่องอำไพ เงาต้นไม้คลาสสิคซะจริง

[attachment=4184]
ต้องขอเก็บภาพหน่อย เป็นหลักฐานว่ามาแล้วจริงๆ

[attachment=4185]
สายหมอกพลิ้วด้วยแรงลมสู้กับแสงอาทิตย์ยามเช้าเหนืออ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง
[attachment=4186]
อิสระ สบาย มาที่นี่แล้วลืมวันทำงานไปได้เลย...

[attachment=4187]

[attachment=4188]
แม้ว่าจะสายแล้วและมีแสงอาทิตย์ส่อง แต่ด้วยความหนาวที่เรียกว่าหนาวจัด เมื่อเราเดินไปถึงสวนดอกไม้จึงยังมีน้ำค้างแข็งเกาะที่อยู่ที่ดอกไม้ด้วย ไม่คิดว่าจะมีนะเนี่ยเลยมาเก็บภาพเอาตอนสายไปหน่อย แดดออกแล้วอาจจะทำให้น้ำแข็งบางส่วนละลายไปแล้ว...
[attachment=4189]
แม่คะนิ้ง ที่ยังเหลืออวดความงามตอนสายที่เราไปเก็บภาพ

[attachment=4190]
สวนดอกไม้สวยๆ ในโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)

[attachment=4191]
สายแล้ว นักท่องเที่ยวทยอยเดินทางออกเพื่อไปยังเป้าหมายของแต่ละคน บ้างก็ปาย บ้างก็บ้านรักไทยและอีกหลายๆ แห่งมากมายสถานที่ท่องเที่ยวของแม่ฮ่องสอน
[attachment=4192]
มุมคลาสสิคของปางอุ๋ง

[attachment=4193]
คนน้อยแล้ว ขอสักภาพละกัน กว่ามุมนี้จะว่าง 555

[attachment=4194]
หลังจากสายได้ที่ประมาณ 10 โมง เราก็ได้เวลาที่จะต้องออกเดินทางไปยังเป้าหมายต่อไปแล้วครับ นั่นก็คือ วกกลับไปที่ปาย นั่นเอง
[attachment=4196]
ก่อนจะกลับเราก็แวะซื้อของที่ระลึกด้วยครับ วันนี้ได้เสื้อปางอุ๋งมาครับ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นซะหน่อย

[attachment=4195]
อีกหนึ่งกิจกรรมที่มีแทบจะทุกสถานที่ท่องเที่ยวครับ นั่นก็คือ การส่งไปรษณีย์นั่นเอง

[attachment=4197]
และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางออกจากปางอุ๋งจริงๆ ซะทีครับ เพราะเป้าหมายของเรายังมีอีกหลายที่ เวลาที่เราวางแผนมาสำหรับเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน 5 วัน 4 คืนนี่ช่างน้อยซะจริงๆ นี่ขนาดเที่ยวกันทั้งวันทั้งคืนแทบไม่ได้หยุดพักเลยนะครับ

ก่อนที่เราจะวกกลับไปนอนที่ปาย ตอนขามาเราก็ได้มองทางไว้ก่อนแล้วครับว่าขากลับเราจะแวะที่ไหนบ้าง นั่นก็คือ "บ้านรักไทย" และ "ถ้ำปลา" ครับ ติดตามอ่านต่อได้ในกระทู้หน้านะครับ

ขอบคุณมากที่ติดตามอ่านนะครับ หากสนใจสอบถามเส้นทางหรือสงสัยจุดไหน สอบถามไว้ได้นะครับ แล้วจะเข้ามาตอบให้ครับ ขอบคุณครับ...
มาแล้วครับ กระทู้ต่อจากปางอุ๋ง เราไปต่อกันเลยที่ ทริปจิบชา ชมทะเลสาบ ที่บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน ครับ
สุดยอดเลยที่นี่อยากไปมากๆ
Reference URL's