ThaiBuddyTrip.com - เว็บคู่หูของคนชอบเที่ยว

เย้... กลับมาแล้ว มาพร้อมกับอัพเดททริปส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันที่ภาคเหนือ

สำหรับปีใหม่ปี 2556 นี้เป็นปีที่ผมเดินทางไกลที่สุดในการขับรถเที่ยวตั้งแต่ที่เคยมีมา นั่นก็เพราะว่าเราเดินทางออกจากระยองเพื่อไปยังเชียงใหม่ และต่อไปที่แม่ฮ่องสอนนั่นเอง ซึ่งรวมระยะทางทริปนี้ไปกลับทั้งหมดจากหน้าบ้านจนกลับมาหน้าบ้านทั้งสิ้น 2553.9 Km (อีกนิดจะเป็น 2556 เหมือนปี พ.ศ. ใหม่นี้แล้ว)

เริ่มจากเราออกเดินทางจากระยองในวันที่ 27 ธ.ค. 2555 เวลา 18.00 น. เพื่อไปรับเพื่อนอีก 1 คนที่ กทม. แล้วมุ่งหน้าตรงสู่จังหวัดเชียงใหม่ทันที โดยใช้เส้นทางสายนครสวรรค์ - กำแพงเพชร - ตาก - ลำปาง - เชียงใหม่

เรามาถึงเชียงใหม่กันราว 7 โมงกว่า จากนั้นก็แวะล้างหน้าแปรงฟันที่ปั๊มน้ำมัน ก่อนมุ่งหน้าตรงสู่ “วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร” กันทันที ซึ่งเมื่อขับรถตามถนนหมายเลข 1004 เรื่อยๆ มาถึงบริเวณตรงทางขึ้นดอยสุเทพก็จะพบกับ “ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย”

[attachment=4071]
ที่ทำการอุทยาน

[attachment=4070]
จากนั้นก็หาที่จอดรถซึ่งจอดรถได้ฟรีครับที่ถนนด้านหน้าที่ทำการอุทยาน ซึ่งเราก็ได้แวะทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และสักการะ “อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย” เพื่อความเป็นศิริมงคลก่อนขึ้นดอยสุเทพครับ

[attachment=4072]
ทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นศิริมงคล

[attachment=4073]
สักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ที่ทางขึ้นดอยสุเทพ ตรงข้ามกับที่ทำการอุทยานฯ

[attachment=4074]

[attachment=4075]
จากนั้นเราก็ขับรถตรงขึ้นสู่ดอยสุเทพทันที ที่นี่หากท่านใดไม่สะดวกขับรถยนต์ขึ้นก็จะมีรถโดยสารสองแถวสีแดงให้บริการพาขึ้นลงดอยสุเทพเช่นกันครับ

เมื่อขับรถคดเคี้ยวขึ้นเขามาได้สักพักก็จะถึงทางเดินขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพครับ สังเกตง่ายๆ ได้จากจะมีรถจอดอยู่มากมายตามริมถนน แต่เพื่อความสะดวกเขาก็มีที่จอดรถฟรีบริการนะครับ แนะนำให้มาถึงแต่เช้าจะดีกว่าเพราะสายๆ รถจะยิ่งเยอะ

[attachment=4076]
นี่คือบรรไดทางเดินขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพครับ สูงและชันไม่ใช่เล่น

[attachment=4077]
ถึงกับหอบกันเลยทีเดียว 555

[attachment=4078]
ถึงแล้วครับ ซุ้มประตูทางเข้าวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร

แต่เมื่อขึ้นมาถึงข้างบนแล้วจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ เพราะจะตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศที่สวยงามโดยรอบ อากาศที่เย็นสบาย มีจุดชมวิวที่มองลงไปเห็นตัวเมืองเชียงใหม่ในมุมสูงอย่างชัดเจน

[attachment=4079]
บรรยากาศรอบนอกก่อนเข้าไปยังภายในที่มีองค์พระธาตุฯ

[attachment=4080]
จุดชมวิวเมืองเชียงใหม่ มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพเยอะรวมทั้งชาวต่างชาติก็เยอะด้วย

[attachment=4081]
การเคาะระฆังถือเป็นการส่งเสริมให้บุญกุศลที่ทำโด่งดังไปไกลติดตัวไปอีกนานถึงภพชาติหน้า (สาระนิดหนึ่ง)

จากนั้นก็ได้เวลาเข้าไปชมความงามด้านในของวัดแล้วครับ

[attachment=4082]
องค์พระธาตุสีทองสุกใสสวยงามมากๆ ครับ ตัดกับฟ้าที่เป็นสีฟ้าแบบไม่ต้องแต่งภาพใดๆ ทั้งสิ้น

[attachment=4083]
พระพุทธรูปโดยรอบองค์พระธาตุ

[attachment=4084]
นักท่องเที่ยวมาทำบุญกันอย่างเนืองแน่น ล้นหลามทุกพื้นที่ของวัดครับ

[attachment=4085]

[attachment=4086]

[attachment=4087]
ขอเก็บภาพทริปเล็กๆ แต่บรรยากาศยิ่งใหญ่สักหน่อย นี่เป็นประธาตุแห่งที่ 2 ที่ผมเคยมาทำบุญครับ พระธาตุแรกที่เคยไปก็เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาที่ พระธาตุพนม จ.นครพนม โน่นน..

เมื่อทำบุญและเวียนเทียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาจะต้องไปยังเป้าหมายต่อไปของทริปแล้วล่ะครับ นั่นก็คือ "พระตำหนักภูพิงค์" และ "หมู่บ้านม้งดอยปุย" นั่นเอง...

บริเวณทางขึ้นวัดก็จะมีร้านขายของฝาก ของที่ระลึกตลอดข้างทางอยู่เป็นจำนวนมากน่ะครับ เก็บภาพบรรยากาศมาฝากนิดหน่อยก็แล้วกัน

[attachment=4088]

[attachment=4089]

[attachment=4090]

สำหรับการเดินทางต่อขึ้นไปยังพระตำหนักภูพิงค์และหมู่บ้านม้งดอยปุยนี้ เราประเมินจากสถานการณ์รถที่ขึ้นมาแล้ว ตัดสินใจกันว่าจะจอดรถไว้ที่นี่ครับแล้วนั่งรถรับจ้างขึ้นไป เพราะคิดว่าข้างบนคงจะหาที่จอดยากแน่ ซึ่งก็จริงครับ รถเยอะมากยิ่งหมู่บ้านม้งดอยปุยถนนเล็กและแคบมากๆ แนะนำให้นั่งรถรับจ้างปลอดภัยที่สุดทั้งรถทั้งคนครับ

[attachment=4091]
สนนราคาค่าโดยสารจากหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพครับ ราคาที่แสดงเป็นราคาขาเดียวนะครับ คือ

พระตำหนักภูพิงค์ ไป 40 บาท กลับ 30 บาท
บ้านม้งดอยปุย ไป 60 บาท กลับ 60 บาท
บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน 200 บาท กลับ 200 บาท

แต่วันนี้เราจ่ายในราคาบ้านม้งดอยปุยครับไปกลับ 120 บาทได้เที่ยว 2 ที่คือ บ้านม้งดอยปุยและพระตำหนักภูพิงค์เพราะอยู่ในเส้นทางเดียวกัน รถรับจ้างนี้จะเป็นแบบรอรับกลับนะครับ จะให้เราเที่ยวจุดละ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ ซึ่งก็ต้องทำเวลาหน่อยครับเพราะจุดถ่ายภาพสวยๆ เยอะ จะเป็นยังไงเดี๋ยวมาติดตามในกระทู้หน้าครับ กับกระทู้ ตะลุยหมู่บ้านม้งดอยปุย...

ยังไม่เคยไปเลยเดี๋ยวคงต้องหาโอกาสไปสักครั้งครับ