(4 ก.พ. 2554) วันนี้จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ของจังหวัดเลยกันนะครับ นั่นก็คือ
สวนหินผางาม หรือรู้จักกันดีในนาม
คุนหมิงเมืองเลย หรือจะเรียกว่า
คุนหมิงเมืองไทย ก็ว่าได้ จะว่าไปแล้วทีมงานในทริปเราก็ไม่มีใครรู้จัก ไม่รู้ว่ามันคืออะไรและมีอะไรให้เที่ยว จึงไม่ได้เตรียมตัวสำหรับไปเที่ยวที่นี่เลย เพราะจริงๆ แล้วคือเรากำลังจะมุ่งหน้าไป “
เชียงคาน” ตามแผนแรกกัน แต่เมื่อนั่งรถมาถึงบริเวณเขตกิ่งอำเภอหนองหิน จังหวัดเลย ก็มีคนร้องถามว่า เคยได้ยินชื่อ คุณหมิงเมืองไทยมั๊ย เหมือนเคยได้ยินมาว่าอยู่แถวๆ อำเภอนี้นะ อยากลองไปเที่ยวดูมั๊ย?
ว่าแล้วก็ไม่รอช้าครับ เพราะดูนาฬิกาแล้วเราก็ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือก่อนที่จะไปเชียงคาน จึงเริ่มการเปิดแผนที่ที่ติดรถมาเพื่อหาพิกัดกันทันที
แต่ก่อนที่จะไปถึงนั้น เราก็ได้แวะพักเหนื่อยเติมพลังและรับลมหนาวแบบหนาวสะใจกันที่บริเวณจุดพักรถอำเภอภูกระดึงกันก่อน อากาศวันนี้หนาวมาก คุยกันมีไอออกปากเลย เรามาถึงจุดนี้กันประมาณตี 5 เศษๆ ครับ กำลังจะสว่างแล้ว
[
attachment=3386]
[
attachment=3387]
[
attachment=3388]
มีไอออกปากด้วย...
ทางเข้าคุนหมิงเมืองไทยนั้นต้องแยกจากทางหลวงสายเมืองเลย-ชุมแพ ช่วงระหว่างอำเภอวังสะพุงกับอำเภอภูกระดึงเข้าไปตามถนนของหมู่บ้านไปสักพักประมาณ 15 กิโลเมตร แต่ไม่ต้องกลัวเพราะมีป้ายบอกทางตลอด เลี้ยวซ้าย-ขวาไม่ต้องกลัวหลง วันที่เรามากันนี้แม้ว่าจะผ่านช่วงปีใหม่มาแล้วแต่ก็ยังอากาศหนาวมากๆ ใช้ได้เลยทีเดียว
เมื่อเข้าไปถึงจะมีที่ทำการบริการนักท่องเที่ยวให้บริการสอบถามข้อมูลรวมถึงมีร้านอาหาร ห้องน้ำให้บริการ
[
attachment=3389]
สวนหินผางามนี้จะเป็นภูเขาหินปูนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สูงต่ำสลับกันไป มีรูปร่างหลากหลายแบบ สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนไม่น้อยเพราะด้วยความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ นอกจากที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย
[
attachment=3390]
[
attachment=3391]
เมื่อมาถึงเราก็เริ่มการเก็บภาพเข้ากล้องทันที เพราะรู้สึกว่าภูเขาหินปูนที่นี่จะแปลกตา หาดูได้ยาก ได้มาสักทีต้องเก็บภาพให้คุ้ม
[
attachment=3392]
วันนี้เรามาทั้งหมด 13 คนครับ แต่ในรูปเห็น 12 เพราะอีก 1 คนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนั่นเอง
[
attachment=3393]
ที่นี่นับเป็นอีกที่ที่น่าสนใจในการมาเที่ยวชมธรรมชาติ ทางเดินที่ขึ้นเขาชันบาง ราบบ้างสลับกันไปเรื่อยๆ ทำให้มีความสนุกในการเดินทาง และยังได้พบเห็นต้นไม้ดอกไม้แปลกๆ ที่ไม่เคยเห็น เป็นการเรียนรู้ธรรมชาติจากการท่องเที่ยวอีกทางด้วย
[
attachment=3394]
[
attachment=3395]
ระหว่างทางเดินก็จะมีมุมที่แปลกๆ อยู่มากมาย หากท่านชอบถ่ายรูปแล้วละก็คงต้องเดินเป็นวันๆ เพราะจะต้องหยุดถ่ายรูปแทบตลอดทางแน่นอน นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมุมสวยๆ เท่านั้น ไม่สามารถเอามาลงทั้งหมดได้ (เยอะมาก)
[
attachment=3396]
ที่เพิ่มความสนุกให้กับทริปเราอีกอย่างหนึ่งก็คือ “
เขาวงกต แดนมหัศจรรย์” เขาวงกตนี้จะเป็นช่องหินในภูเขาที่วกไปวนมา จนงงงวย เราก็เดินวนกันอยู่หลายรอบ วนไปวนมา จนผมเองก็ลืมไปแล้วว่าตกลงเราออกมาได้ยังไง 555+
แต่ตรงนี้สนุกจริงๆ อยากให้ไปลองดูครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน
[
attachment=3397]
เมื่อหลุดจากเขาวงกตมาได้ก็เดินทางขึ้นเขากันต่อ ทางส่วนใหญ่จะเป็นการเดินขึ้นที่สูงนะครับ แนะนำว่ารองเท้าควรจะต้องเหมาะกับการเดินป่า ทะมัดทะแมง ไม่หลุดง่ายจะดีมาก
[
attachment=3398]
ในที่สุดเราก็มาถึงยอดเขาจนได้ ภาพที่เห็นกับลมที่พัดเย็นทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง พวกเราต่างรีบหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานยังกับกลัวว่าภูเขาต่างๆ จะหายไป
[
attachment=3399]
ว่าแล้วก็ขอเก็บภาพหมู่ไว้เป็นพยานสักหน่อยว่า “
พวกเรามาถึงแล้ว” คร๊าบบบ
[
attachment=3400]
เมื่อได้ทั้งภาพหมู่ ภาพส่วนตัว ภาพคู่ ภาพคี่ต่างๆ จนพอใจแล้ว ก็ได้เวลากลับ ความสนุกยังไม่ได้หมดไปแค่นั้นนะครับ เพราะว่าทางกลับก็เป็นอีกทางที่ไม่ซ้ำกับทางขึ้นไป ทำให้เราก็ได้บรรยากาศและมุมกล้องใหม่ๆ ตลอดทั้งขาขึ้นและขาลง
[
attachment=3401]
ระหว่างทางลงก็จะมีร้านค้าขายสินค้า OTOP ของที่ระลึกให้เลือกซื้อหาเอาไปฝากคนที่ไม่ได้มากัน
[
attachment=3402]
ขาขึ้นเดินขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นจากจุดบริการนักท่องเที่ยวนะครับ ส่วนขาลงนั้นจะไปลงอีกฟากหนึ่ง ซึ่งมีรถไถลากบริการหรือจะเดินกลับเองก็ได้แต่ก็ไกลพอสมควร เราจึงเลือกใช้บริการรถไถลากครับ ความสนุกก็ดังที่เห็น
[
attachment=3403]
สวยมากเลยครับ แต่ทางเดินคงไกลน่าดู