ThaiBuddyTrip.com - เว็บคู่หูของคนชอบเที่ยว

Full Version: ทริป 3 วัน 2 คืน กาญจนบุรี ตอนที่ 2 วัดท่าขนุน ป้อมปี่ ด่านเจดีย์สามองค์
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
ก่อนอื่นถ้าท่านใดยังไม่ได้อ่าน ตอนที่ 1 ติดตามได้จาก ทริป 3 วัน 2 คืน กาญจนบุรี ตอนที่ 1 ปราสาทเมืองสิงห์ ถ้ำกระแซ เขื่อนศรีนครินทร์ นะคร๊าบบบ

เช้าแล้ววว… มาติดตามทริปการทัวร์กาญจนบุรี ตอนที่ 2 กันต่อดีกว่า…

เมื่อคืนนอนริมหรืออาจจะเรียกว่าบนน้ำ 555 อากาศดี หนาว(แอร์) ตื่นเช้ามาสดใส ทานอาหารเช้าเท่าที่จะถ่ายรูปทันเพราะเหตุการณ์ตอนนั้นมันเร็วมาก ฮ่าๆๆ


[attachment=4675]

อิ่มหมีพีมันบุฟเฟ่ต์มื้อเช้าแล้ว เราก็เช็คเอาท์ออกจากนาคาคีรี รีสอร์ทกันประมาณ 9 โมงเช้าครับ มุ่งหน้าตามถนนหมายเลข 323 กันต่อ จุดหมาย next station ต่อไปคือ “น้ำตกเกริงกระเวีย” อ.สังขละบุรี

[attachment=4676]

ขับรถเพลินๆ ระหว่างทางหลังจากเลี้ยวขวาที่แยก อ.ทองผาภูมิ เพื่อตามถนนหมายเลข 323 ไปยัง อ.สังขละบุรีนั้น มีพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ สร้างอยู่หน้าของ “วัดท่าขนุน” อ.ทองผาภูมิ เราจึงแวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางต่อ

[attachment=4677]
[attachment=4678]

หลังจากไหว้พระสบายใจแล้ว เราก็มุ่งหน้าต่อเพื่อจุดหมายถัดไป “น้ำตกเกริงกระเวีย” แต่เพราะขับมันส์หรือป้ายไม่ชัดเจนก็ไม่ทราบ มาโผล่อีกทีก็ “อุทยานแห่งชาติเขาแหลม” เลยน้ำตกเกริงกระเวียมาแล้วเรียบร้อย ก็เลยตามเลยและมาแวะที่ “จุดชมวิวป้อมปี่” กันเลยละกัน

[attachment=4679]

จุดชมวิวป้อมปี่ เป็นสถานที่ชมวิวในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมที่หลายๆ คนพูดถึง ว่าเป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม โรแมนติก และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งทางภาคตะวันตก เหมาะแก่การพักผ่อนแบบไม่ลำบากมาก มีบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ มองเห็นท้องน้ำของอ่างเก็บน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ์ ทิวทัศน์ภูเขาอยู่ไกลสายตาออกไป

[attachment=4680]
[attachment=4681]

มุมถ่ายรูปสุดคลาสสิคของจุดชมวิวป้อมปี่

[attachment=4682]

[attachment=4683]
เดินเล่น นั่งพักเหนื่อยให้ลมเย็นพัดคลายร้อน ที่นี่มีต้นไม้สูงมาก โปร่ง กว้างขวาง มีที่กางเต็นท์ จุดขายอาหาร-เครื่องดื่มเย็นๆ ดับร้อนด้วย สะดวกสบายมากครับ

[attachment=4684]

[attachment=4685]

เมื่อซึมซับกับบรรยากาศเต็มที่แล้ว เราก็ออกเดินทางกันต่อครับ จุดหมายต่อไปคือ “สุดแดนตะวันตก” หรือที่ “ด่านเจดีย์สามองค์” นั่นเองครับ

[attachment=4686]

ชะแว๊บ.. ถึงแล้วอย่างรวดเร็ว (ของจริงไม่เร็วอย่างนี้นะครับ)
[attachment=4687]

มีเจดีย์ 3 องค์จริงๆ ด้วย

[attachment=4688]

ด่านเจดีย์สามองค์ หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ "หินสามกอง" เป็นจุดบอกเขตผ่านทาง พรมแดนไทย - พม่า ในแนวเขาตะนาวศรี ปัจจุบันบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ นอกจากจะเป็นเส้นทางผ่านพรมแดนไทย - พม่า แล้ว ยังมีตลาดที่เป็นจุดแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าที่สำคัญหลายชนิด ด่านเจดีย์สามองค์ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี เป็นเขตสิ้นสุดชายแดนฝั่งตะวันตกของไทย

[attachment=4689]

อยู่จนได้เวลาเห็นพี่ทหารเปลี่ยนพวงมาลัยและผ้าคลุมพระเจดีย์ด้วย ถึงว่าสีสดตลอด หุหุ

เมื่อเก็บภาพด้วยกล้อง ด้วยมือถือ ซื้อของฝากเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางกันต่อเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางของทริปนี้กัน นั่นก็คือ “สังขละบุรี” นั่นเอง…
เวลาเริ่มคล้อยบ่าย ตอนนี้ก็ 4 โมงกว่าแล้ว เรามาถึงที่พักคืนที่ 2 ที่จองไว้ล่วงหน้าเพียง 3 วัน ซึ่งห้องแบบธรรมดา ราคาประหยัดหาไม่ได้แล้ว สุดท้ายได้ที่ “บ้านสะพานรัก” หรือ “Love Bridge House” ราคาต่อห้องที่เหลืออยู่ก็แพงเอาการ แต่โจทย์คือต้องการพักใกล้กับสะพาน เพียงแค่เดินชิลๆ ก็ถึงสะพานประมาณนั้น ซึ่งที่นี่ก็ตอบโจทย์เลยครับ

[attachment=4690]

ภายในห้องพักกว้างขวาง

ตอนนี้ก็กึ่งจะมื้อเย็นหรือไม่เย็นดี แต่หิวแล้ว 5 โมงกว่าๆ เราเลยจัดอาหารเย็นที่บ้านสะพานรักกันก่อน เรื่องถ่ายรูปที่สะพานเอาไว้ก่อน อิ่มแล้วค่อยว่ากัน

[attachment=4691]

[attachment=4692]
[attachment=4693]

ร้านอาหารของบ้านสะพานรัก ตั้งอยู่บนระเบียงชั้น 2 นะครับ นั่งทานไปมองยอดไม้ไป ดูภูเขา ดูแม่น้ำไป ชิลไปอีกแบบ

เอาล่ะ อิ่มแล้ว ได้เวลาออกเดินย่อยอาหารแล้ว (จะได้กินได้อีก)

[attachment=4694]

ภาพนี้จากมุมของสามประสบรีสอร์ทนะครับ ตอนแรกจะไปทานอาหารเย็นที่นี่ แต่ครัวยังไม่เปิด เลยเก็บภาพแทน

[attachment=4695]

ที่สังขละบุรีก็มีแกะเหมือนกันน๊า…
[attachment=4696]

เบื้องหน้าคือ “สะพานมอญ” มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “สะพานอุตตมานุสรณ์”​ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า และเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธา ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรี

ในระหว่างที่สะพานมอญพังเสียหายจากน้ำไหลหลากครั้งก่อน จึงได้มีการสร้างสะพานไม้ไผ่หรือสะพานลูกบวบใช้ในการสัญจรข้ามแม่น้ำแทน ปัจจุบันสะพานทั้ง 2 กลายเป็นอีกสัญลักษณ์ที่จะพลาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสเมืองสังขละบุรี

[attachment=4697]

ยืนดูการจราจรทางเรือสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปชมวัดกลางน้ำ ซึ่งเราก็มีแผนจะไปเช่นกันในวันพรุ่งนี้

[attachment=4698]

หันกลับมาที่สะพานมอญกันต่อ ตอนนี้เริ่มแดดร่มลมตก อากาศเย็นสบาย ลมพัดตลอด นักท่องเที่ยวซึ่งไม่รู้ว่าพักอยู่ ณ แห่งหนตำบลใดกันบ้างต่างออกมายืน เดิน นั่ง เพื่อสัมผัสบรรยากาศยามเย็นกันอย่างล้นหลาม แบบว่าเต็มสะพานประมาณนั้น
[attachment=4699]

แสงแดดกำลังจะลับภูเขา สีทองผ่องอำไพจ้าเลย

[attachment=4700]

ตอนนี้เงาของภูเขาได้เข้ามาบดบังยังสะพานแล้ว เป็นสัญลักษณ์บอกว่าความมืดกำลังจะมาเยือน เพราะฉนั้นเดินข้ามสะพาญไปยังหมู่บ้านมอญเพื่อชมตลาด หาของกิน ของฝากกันก่อนดีกว่า

[attachment=4701]
[attachment=4702]

[attachment=4703]

อย่าปล่อยให้ผู้หญิงได้เข้าร้านแหวน กำไล เสื้อผ้า ฯลฯ ครับ เพราะจะอยู่กันยาวครับ จากไม่มืดถึงกับมืดเลยทีเดียว

[attachment=4704]

2 ทุ่มแล้ว นักท่องเที่ยวก็ยังเดินอยู่พอสมควร แต่เราหมดพลังแล้ว ต้องใช้พลังที่เหลือขอตัวเดินกลับที่พักไปนอนก่อน พรุ่งนี้ยังมีภาระกิจสนุกๆ สวยๆ อีกหลายที่ครับ

ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตอนนี้ครับ ^_^

อย่าลืมติดตามตอนหน้านะครับ กับตอนสุดท้ายของทริป ทริป 3 วัน 2 คืน กาญจนบุรี ตอนที่ 3 วัดสมเด็จ ศรีสุวรรณ วังก์วิเวการาม ช่องเขาขาด
ค่าใช้จ่ายโดยรวมเมื่อสมาชิกในครอบครัว 5 คน
Reference URL's