Mon, 16 Apr 07, 21:25
[attachment=31]
หลายๆ คนอาจจะสงสัยกันว่าที่คนเค้าพูดกันทั่วไปว่า เล่น EDGE เนี่ยมันคืออะไร ซึ่งผมจะทำหน้าที่ไขความกระจ่างให้เองนะครับ ซึ่งก่อนที่จะพูด EDGE นั้น ผมขอพูดถึงบริการตัวเก่าคือ GPRS กันก่อน เพื่อให้เพื่อนๆ บางคนที่อาจจะยังงงๆ อยู่กับ GPRS จะได้กระจ่างกันมากขึ้น
เครือข่าย GPRS นั้นถูกออกแบบมาสำหรับรับส่งข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือ ด้วยบริการนี้ทำให้ผู้ให้บริการทั้งหลายสามารถนำเสนอบริการในหลายๆ รูปแบบ เช่น การรับส่ง mms/ดาวน์โหลดเกมส์/ริงโทน หรือที่เรียกกันว่า บริการแบบ Non-voice (ไม่ใช้เสียง)
GPRS ทำงานอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้วในเครือข่ายต่างๆ จะมีการแบ่งช่องสัญญาณไว้อยู่ที่ 8 ช่องสัญญาณ โดยแบ่งเป็นการใช้งาน Voice 6 ช่องและ GPRS 2 ช่อง ซึ่งภายใน 2 ช่องนี้สามารถที่จะรองรับผู้ใช้งาน GPRS พร้อมๆ กันได้หลายคน ซึ่งระบบจะมีการจัดการสายต่างๆ ที่เข้ามาพร้อมๆ กันได้อย่างมีระบบ
ปัญหาของเครือข่าย GPRS
ความเร็วของ GPRS นั้น ในทางทฤษฎี วิ่งได้เร็วสูงสุด ประมาณ 40 กิโลบิตต่อวินาที (Kbps) นั่นหมายความว่าใน 1 ช่องสัญญาณจะต้องมีเราเล่น GPRS อยู่เพียงคนเดียว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง เพราะฉะนั้นบางเวลาที่คนใช้ GPRS กันเยอะๆ เช่นช่วง เทศกาล จะทำให้ความเร็วในการใช้ GPRS ช้าลงไปเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการส่ง MMS/การใช้มือถือเชื่อมต่อ Internet หรือการใช้มือถือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อเช็คอีเมล์ หรือ internet
กำเนิด EDGE
ด้วยปัญหาข้างต้น จึงทำให้เกิดระบบ EDGE ขึ้นมา ซึ่งย่อมาจาก "Enhance Data rate for Global Evolution" หรือ EGPRS ก็ได้ สิ่งที่พัฒนาขึ้นมาก็คือ เรื่องความเร็วที่เร็วกว่า GPRS ถึง 5 เท่าทีเดียว เพราะ EDGE มีการปรับปรุงเรื่องการเข้ารหัสในช่องสัญญาณ ทำให้สามารถใช้ช่องสัญญาณที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในทางทฤษฎี EDGE สามารถวิ่งได้ถึง 473.6 Kbps แต่ในความ เป็นจริงเราไม่ได้ใช้คนเดียวในช่องสัญญาณอยู่ แล้ว ทำให้ความเร็วที่ใช้จริงอยู่ประมาณ 236 Kbps (Internet ทั่วไปตาม บ้านจะวิ่งอยู่ประมาณ 56 Kbps)
หลายๆ คนอาจจะสงสัยกันว่าที่คนเค้าพูดกันทั่วไปว่า เล่น EDGE เนี่ยมันคืออะไร ซึ่งผมจะทำหน้าที่ไขความกระจ่างให้เองนะครับ ซึ่งก่อนที่จะพูด EDGE นั้น ผมขอพูดถึงบริการตัวเก่าคือ GPRS กันก่อน เพื่อให้เพื่อนๆ บางคนที่อาจจะยังงงๆ อยู่กับ GPRS จะได้กระจ่างกันมากขึ้น
เครือข่าย GPRS นั้นถูกออกแบบมาสำหรับรับส่งข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือ ด้วยบริการนี้ทำให้ผู้ให้บริการทั้งหลายสามารถนำเสนอบริการในหลายๆ รูปแบบ เช่น การรับส่ง mms/ดาวน์โหลดเกมส์/ริงโทน หรือที่เรียกกันว่า บริการแบบ Non-voice (ไม่ใช้เสียง)
GPRS ทำงานอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้วในเครือข่ายต่างๆ จะมีการแบ่งช่องสัญญาณไว้อยู่ที่ 8 ช่องสัญญาณ โดยแบ่งเป็นการใช้งาน Voice 6 ช่องและ GPRS 2 ช่อง ซึ่งภายใน 2 ช่องนี้สามารถที่จะรองรับผู้ใช้งาน GPRS พร้อมๆ กันได้หลายคน ซึ่งระบบจะมีการจัดการสายต่างๆ ที่เข้ามาพร้อมๆ กันได้อย่างมีระบบ
ปัญหาของเครือข่าย GPRS
ความเร็วของ GPRS นั้น ในทางทฤษฎี วิ่งได้เร็วสูงสุด ประมาณ 40 กิโลบิตต่อวินาที (Kbps) นั่นหมายความว่าใน 1 ช่องสัญญาณจะต้องมีเราเล่น GPRS อยู่เพียงคนเดียว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง เพราะฉะนั้นบางเวลาที่คนใช้ GPRS กันเยอะๆ เช่นช่วง เทศกาล จะทำให้ความเร็วในการใช้ GPRS ช้าลงไปเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการส่ง MMS/การใช้มือถือเชื่อมต่อ Internet หรือการใช้มือถือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อเช็คอีเมล์ หรือ internet
กำเนิด EDGE
ด้วยปัญหาข้างต้น จึงทำให้เกิดระบบ EDGE ขึ้นมา ซึ่งย่อมาจาก "Enhance Data rate for Global Evolution" หรือ EGPRS ก็ได้ สิ่งที่พัฒนาขึ้นมาก็คือ เรื่องความเร็วที่เร็วกว่า GPRS ถึง 5 เท่าทีเดียว เพราะ EDGE มีการปรับปรุงเรื่องการเข้ารหัสในช่องสัญญาณ ทำให้สามารถใช้ช่องสัญญาณที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในทางทฤษฎี EDGE สามารถวิ่งได้ถึง 473.6 Kbps แต่ในความ เป็นจริงเราไม่ได้ใช้คนเดียวในช่องสัญญาณอยู่ แล้ว ทำให้ความเร็วที่ใช้จริงอยู่ประมาณ 236 Kbps (Internet ทั่วไปตาม บ้านจะวิ่งอยู่ประมาณ 56 Kbps)